เตือนนักท่องเที่ยวกางเต้นท์นอนป่า ระวังไรอ่อน


 

“ต้นเหตุไข้ราดสาดใหญ่”

นพ.วิทยา หลิวเสรี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ กรมควบคุมโรค แจ้งว่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเดินทางมาสัมผัสอากาศหนาว ตามพื้นที่ดอยสูงในจังหวัดเชียงใหม่ ต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวไรอ่อนขบ เพราะทำให้เกิดโรคสครับไทฟัสหรือไข้รากสาดใหญ่ ที่อาศัยในขนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เช่น หนู กระแตชอบกัดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ ขาหนีบ เอว ลำตัวบริเวณ ใต้ราวนม รักแร้ จะปล่อยเชื้อริกเก็ตเซียเข้าสู่คน สำหรับผู้ที่ถูกกัดไปแล้วหากล้มป่วยจะเกิดอาการ มีไข้สูง ตัวร้อนจัด หนาวสั่น ปวดศีรษะบริเวณขมับและหน้าผากอย่างรุนแรง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตัว ปวดกระบอกตา มีแผลคล้ายถูกบุหรี่จี้ มีสีแดงคล้ำ เป็นรอยบุ๋มแต่ไม่คัน อย่างไรก็ตามพบว่าผู้ป่วยประมาณร้อยละ 20 อาจมีอาการแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดอักเสบ สมองอักเสบ อาจเสียชีวิตได้ โดยพบผู้ป่วยโรคสครับไทฟัสมากที่สุดในภาคเหนือ และภาคตะวันอกเฉียงเหนือ และยังไม่มีวัคซีนป้องกันแต่มียารักษาให้หายได้ จึงควรป้องกันโรคโดยแนะนำให้ประชาชนที่จะไปท่องเที่ยวตั้งแค้มป์ไฟ กางเต๊นท์นอนในป่า ควรทำบริเวณค่ายพักให้โล่งเตียน หลีกเลี่ยงการนั่งและนอนบนพื้นหญ้า แต่งกายให้มิดชิด ควรใส่รองเท้า สวมถุงเท้าหุ้มปลายขากางเกง ทายาป้องกันแมลงกัดตามแขนขาและให้รีบอาบน้ำให้สะอาดหลัง ออกจากป่า ซักเสื้อผ้าที่สวมใส่ซักให้สะอาดทันที เพราะตัวไรอาจติดมากับเสื้อผ้าได้และเมื่อประชาชนหลังกลับจากเที่ยวป่าหรือกางเต๊นท์นอนตามพื้นหญ้าในช่วงฤดูหนาว ภายใน 2 สัปดาห์ หากมีอาการป่วย คือมีไข้ขึ้นสูง ปวดศีรษะและมีรอยแผลที่ผิวหนังคล้ายถูกบุหรี่จี้ ควรรีบไปพบแพทย์และแจ้งประวัติการเข้าไปในป่าให้แพทย์ทราบทันทีด้วย เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว