บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SCBLIFE “บริษัทประกันชีวิตที่คุณไว้วางใจ” มุ่งพัฒนาคุณภาพสังคมประกันชีวิตอย่างยั่งยืน จัดคอร์สอบรมวางแผนการเงิน ภายใต้หัวข้อ เคล็ดไม่ (ลับ) บริหารความมั่งคั่งทางการเงิน ตอน เลือกประกันชีวิตให้เหมาะสมกับช่วงวัย เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการเลือกทำประกันชีวิต รวมทั้งสนับสนุนความเข้าใจด้านสิทธิประโยชน์ผู้บริโภค เพื่อนำไปสู่การสร้างเสถียรภาพความมั่นคงทางการเงิน
คุณปรีชา รุธิรพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด เปิดเผยว่า SCBLIFE ในฐานะบริษัทประกันชีวิตที่ลูกค้าไว้วางใจ ได้ดำเนินการจัดคอร์สอบรมวางแผนทางการเงิน ตอน เลือกประกันชีวิตให้เหมาะสมตามช่วงวัย เพื่อมุ่งส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไป ตระหนักถึงความสําคัญและสามารถใช้ประกันชีวิตเป็นหนึ่งในเครื่องมือบริหารความเสี่ยงให้กับชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง อันเป็นรากฐานของการสร้างหลักประกันความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวให้กับตนเองและครอบครัว โดยผ่านการแบ่งปันข้อมูล องค์ความความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องด้านการประกันชีวิต รวมทั้งการวิเคราะห์ค้นหาความต้องการที่แท้จริงของตนเองในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต
กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้าง “สังคมประกันประกันชีวิตที่ยั่งยืน” (Sustainable Insurance) ของ SCBLIFE ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาประกันภัยฉบับที่ 3 (2559-2563) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในการเสริมสร้างความรู้ด้านการประกันภัยและประกันชีวิต อีกด้วย ทั้งนี้ การเลือกทำประกันชีวิตให้เหมาะสมกับช่วงวัยแก่ผู้บริโภคคนไทย ควรพิจารณาถึงความต้องการเฉพาะในแต่ละช่วงวัยเป็นหลัก ได้แก่
1.วัยทำงาน ควรพิจารณาแบบประกันเพื่อความคุ้มครองชีวิต เพราะจ่ายเบี้ยประกันไม่สูง และสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมในอนาคตอีกด้วย เช่น คุ้มครองสุขภาพ คุ้มครองโรคร้ายแรง และคุ้มครองอุบัติเหตุ
2.วัยเริ่มมั่นคง ควรพิจารณาหาแบบประกันแบบสะสมทรัพย์ หรือ บำนาญ เพราะเมื่อรายได้เพิ่มมากขึ้น ภาระด้านภาษีก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการทำประกันสำหรับช่วงวัยดังกล่าว ควรเลือกพิจารณาแบบประกันสะสมทรัพย์ หรือ ประกันบำนาญ เพื่อช่วงลดภาระทางภาษี และเป็นการออมเงินเพื่ออนาคตไปด้วยในตัว
3.วัยเริ่มสร้างครอบครัว ควรพิจารณาวางแผนหาแบบประกันชดเชยรายได้และคุ้มครองชีวิต เป็นอีกช่วงชีวิตที่ต้องหันมาพิจารณาเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว ดังนั้นควรเตรียมรับภาระที่จะเพิ่มมากขึ้น ด้วยการเลือกทำประกันชีวิตแบบชดเชยรายได้ เนื่องจากเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เป็นผลให้ขาดรายได้ สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ และควรพิจารณาในส่วนของประกันแบบคุ้มครองชีวิตเพิ่มเติม เพื่อให้ผลประโยชน์และวงเงินคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับคนในครอบครัว
4.วัยเริ่มขยายครอบครัว มีบุตร ควรพิจารณาแบบประกันเพื่อดูแลสุขภาพบุตร เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ควรเตรียมความพร้อมกับเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การเจ็บป่วย หรือปัญหาสุขภาพของบุตร ดังนั้นจึงควรพิจารณาเลือกกรมธรรม์ประกันสุขภาพสำหรับลูก เพื่อลดภาระทางการเงินด้านค่ารักษาพยาบาล
5.วัยใกล้เกษียณ ควรเตรียมความพร้อมด้วยการเลือกแบบประกันชีวิตบำนาญ เป็นช่วงวัยที่ทุกคนควรให้ความสำคัญและเตรียมความพร้อมในการวางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะค่าใช้จ่ายหลังเกษียณเป็นเรื่องที่จำเป็น ซึ่งกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เกิดความมั่นคงทางการเงินในยามเกษียณ
ดังนั้นเมื่อผู้บริโภคควรเลือกความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการของตนเองมากที่สุดและควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อยกเว้นของกรมธรรม์นั้นๆ และควรประมาณการรายรับเพื่อสามารถจ่ายเบี้ยได้ครบตลอดอายุสัญญา โดยสามารถศึกษาข้อมูลเบื้องต้นด้านสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคก่อนและหลังการซื้อประกันชีวิต อาทิ สัญญาประกันภัย สิทธิในการขอยกเลิกกรมธรรม์ภายใน 15 วัน หรือ การใช้สิทธิเกี่ยวกับมูลค่ากรมธรรม์ นับจากวันที่ได้รับกรมธรรม์ เป็นต้น เพื่อทำให้กระบวนการเลือกซื้อประกันชีวิตเกิดประโยชน์ถูกต้องตามความต้องการของลูกค้า ที่จะเป็นพื้นฐานที่ก่อให้เกิดความยั่งยืนของกรมธรรม์ในระยะยาวและส่งผลดีต่อคุณภาพของธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยอีกด้วย” นายปรีชา กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ การเลือกซื้อประกันชีวิตหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับช่วงวัย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยบริหารจัดการและถือเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการวางแผนทางการเงิน นำไปสู่การสร้างวินัยการออมระยะยาวรวมถึงการใช้จ่ายเงินอย่างเหมาะสม
