คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติเร่งหาข้อสรุปแผนงานส่งเสริมการผลิตวัคซีนในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม


s__36225277เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ดร.นพ.จรุง เมืองชนะ ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2559 โดยมี พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุมได้รับหลักการข้อเสนอแนวทางการส่งเสริมการผลิตวัคซีนในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการสนับสนุนจากรัฐบาลในด้านงบประมาณเพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนาและการผลิตวัคซีนในระดับอุตสาหกรรม ครอบคลุมผู้ผลิตทั้งภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันภาครัฐต้องมีกลไกในการประกันตลาดวัคซีนภายในประเทศ และส่งเสริมการค้าวัคซีนในระดับนานาชาติและภูมิภาคอาเซียน
“แผนการส่งเสริมการผลิตวัคซีนในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อใช้ในประเทศและเพื่อจำหน่ายยังต่างประเทศได้พูดคุยกันมากว่า 30 ปี แต่ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน เรามีหน่วยงานรัฐกว่า 50 แห่งที่ทำเรื่องนี้แต่ยังขาดเอกภาพและแผนบูรณาการร่วมกัน อย่างไรก็ดีกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ซึ่งล้วนแล้วเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่เกี่ยวข้อง เห็นตรงกันว่ารัฐบาลปัจจุบันมีศักยภาพที่จะกำหนดทิศทางและผลักดันแนวทางการส่งเสริมการผลิตวัคซีนในประเทศอย่างเป็นรูปธรรมให้เกิดขึ้นได้” ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ระบุ
ดร.นพ.จรุง กล่าวอีกว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตวัคซีนได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสถานเสาวภา สภากาชาดไทย องค์การเภสัชกรรม และภาคเอกชน อาทิ วัคซีนป้องกันวัณโรค วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า วัคซีนป้องกันบาดทะบัก-คอตีบ-ไอกรนชนิดไร้เซลล์ นอกจากนี้ยังอยู่ในขั้นกำลังพัฒนาการผลิตอีกหลายชนิด อาทิ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี เป็นต้น เราจึงต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเป็นระบบ เพื่อขับเคลื่อนไปสู่การสร้างความมั่นคงทางด้านวัคซีนและเป็นหลักประกันด้านสุขภาพให้กับคนไทย ตลอดจนเป็นผู้ผลิตวัคซีนเพื่อจำหน่ายให้ประเทศต่าง ๆ และองค์กรนานาชาติ
ดร.นพ.จรุง กล่าวต่อว่า หลังจากนี้สถาบันวัคซีนแห่งชาติจะประสานผู้เกี่ยวข้องเพื่อหารือแผนปฏิบัติงานในรายละเอียดเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติในครั้งหน้า อาทิ ข้อปฏิบัติหรือข้อตกลงในการแบ่งปันผลประโยชน์ในการลงทุนของภาคเอกชนที่มาร่วมทุนกับภาครัฐ แนวทางการสนับสนุนงบประมาณด้านการวิจัยให้ภาคเอกชน การกำหนดให้มีแผนการจัดซื้อวัคซีนล่วงหน้า 5 ปีจากหน่วยงานที่ผลิตได้ภายในประเทศ และข้อเสนอให้รัฐบาลกำหนดให้ใช้วัคซีนเป็นสินค้าที่จะใช้ในการเจรจากับประเทศคู่ค้า เป็นต้น หากที่ประชุมเห็นชอบก็จะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป