ญี่ปุ่นเร่งเครื่องจัดทำเขตการค้าเสรีกับหลายประเทศ โดยล่าสุด สภาบนของญี่ปุ่นได้ประชุมเมื่อ 9 ธันวาคม 2559 และพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างกฎหมาย
ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership: TPP) หลังจากที่สภาล่างของญี่ปุ่นได้พิจารณาให้ความเห็นชอบความตกลงดังกล่าวแล้วเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2559 ส่งผลให้ญี่ปุ่นดำเนินกระบวนการภายในที่จำเป็นสำหรับการบังคับใช้ความตกลง TPP เสร็จแล้ว โดย
นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น แสดงความมุ่งมั่นในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า
“แม้การบังคับใช้ (ความตกลง TPP) จะมีความไม่แน่นอน แต่การสื่อสารให้โลกรู้ถึงความหมายทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ของความตกลง TPP เป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่ง” และจะผลักดันสหรัฐฯ ให้ดำเนินการบังคับใช้ความตกลงฉบับนี้ต่อไป
นอกจากนี้ เมื่อ 6-10 ธันวาคม 2559 อาเซียนและประเทศคู่เจรจา (ASEAN FTA Partner: AFP) เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย ได้เข้าร่วมการประชุมคณะเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (ASEAN Framework for Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) ครั้งที่ 16 ณ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งการประชุมครั้งนี้ อาเซียนและ AFP สามารถบรรลุผลการจัดทำข้อบท SMEs เพิ่มเติมจากข้อบทความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่แล้วเสร็จไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นได้พยายามผลักดันให้ประเทศที่เข้าร่วมการเจรจาเร่งดำเนินการเพื่อให้บรรลุผลการจัดทำความตกลงฯ ที่มีคุณภาพสูงโดยเร็วอีกด้วย
สำหรับการจัดทำเขตการค้าเสรีระหว่างญี่ปุ่นกับสหภาพยุโรปซึ่งเริ่มการเจรจามาตั้งแต่ปี 2556 นั้น มีความเคลื่อนไหวล่าสุด โดยแหล่งข่าวจากสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า การประชุมระดับหัวหน้าคณะเจรจา ญี่ปุ่น-สหภาพยุโรป มีกำหนดจัดตั้งแต่ 12 ธันวาคม 2559 เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ณ กรุงโตเกียว เพื่อเร่งรัดสรุปผลการเจรจาในประเด็นคงค้างสำคัญ ได้แก่เรื่องการเปิดไวน์ เนยแข็ง พาสต้า และเนื้อหมู รวมถึงประเด็นการจัดซื้อ (ไทยได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย) โดยรัฐและสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ซึ่งอยู่ในความสนใจของสหภาพยุโรป ในขณะที่ญี่ปุ่นผลักดันการลดภาษีนาเข้าสินค้ายานยนต์/ชิ้นส่วน และเครื่องรับโทรทัศน์ เป็นต้น โดยสหภาพยุโรปคาดหวังว่าจะสามารถสรุปผลการเจรจาได้ภายในสิ้นปีนี้หรืออย่างช้าช่วงต้นปี 2560 ทั้งนี้ ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปมีการประชุมเจรจามาแล้วทั้งสิ้น 17 ครั้ง ครั้งล่าสุดจัดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2559 ณ ประเทศเบลเยียม
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยังคงยืนยันนโยบายถอนตัวออกจากความตกลง TPP ได้ส่งผลต่อการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก โดยพรรคฝ่ายค้านของญี่ปุ่นได้กล่าวโจมตีความพยายามของพรรคร่วมรัฐบาลของญี่ปุ่นที่ดึงดันการผลักดันร่างกฎหมาย TPP ในช่วงที่ผ่านมา แต่ทว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้แสดงจุดยืนในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศเชิงรุก โดยเสนอที่ประชุมสภาบนของญี่ปุ่นพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างกฎหมาย TPP แทนการปล่อยให้ร่างกฎหมายฯ ได้รับการอนุมัติโดยอัตโนมัติ หากที่ประชุมสภาบนของญี่ปุ่นรับบรรจุวาระแล้วไม่มีการพิจารณาใน 30 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นกำหนด นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังเร่งเดินหน้าการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรีที่คั่งค้างกับประเทศคู่ค้าสำคัญต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเป็นการผลักดันให้สหรัฐอเมริกาพิจารณาทบทวนท่าทีอนุรักษ์นิยมตามนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อนึ่ง หากญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในการจัดทำ Mega FTA ทั้งสามฉบับ (TPP RCEP และ EU) ก็จะส่งผลให้ญี่ปุ่นได้รับประโยชน์ทางการค้ากับประเทศคู่ค้าสำคัญที่มีมูลค่าการค้ารวมกันกว่า 9.21 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นร้อยละ 722 ของการค้ารวมทั้งหมดของญี่ปุ่นในปี 2558
ข้อคิดเห็น
ญี่ปุ่นยังคงดำเนินนโยบายผลักดันการจัดทำเขตการค้าเสรีกับต่างชาติเพื่อเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการฟื้นฟูและผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างสหรัฐอเมริกาจะมีท่าทีดำเนินนโยบายเชิงอนุรักษ์นิยมมากขึ้นโดยคาดหวังให้สหรัฐอเมริกาทบทวนท่าทีเพื่อกลับมาสนับสนุนการค้าเสรีอย่างเดิม หากญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ นอกจากจะช่วยสร้างความมั่นคงทางการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่นแล้ว ญี่ปุ่นยังสามารถแสดงบทบาทนำในเวทีต่างประเทศ เพื่อผลักดันการเปิดเสรีทางการค้าในประเด็นที่อยู่ในความสนใจได้มากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องการค้าสินค้า บริการ และกฎเกณฑ์ทางการค้าใหม่ ๆ ได้อีกด้วย