เตือนภัยโรคอุจจาระร่วงช่วงหน้าหนาว


นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ประชาชนส่วนมากมักเข้าใจว่าโรคอุจจาระร่วงเกิดขึ้นเฉพาะช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะช่วงที่อากาศหนาวเย็น ก็เกิดโรคอุจจาระร่วงได้เช่นกัน จากสถิติโรคอุจจาระร่วงในฤดูหนาวปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ ต.ค. 2558 ถึง ม.ค. 2559 รวม 4 เดือน พบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงจำนวน 31,381 ราย  โดยเฉพาะอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า หรือที่เราเรียกว่า ไวรัสลงลำไส้ 

โดยไวรัสชนิดนี้พบมากในกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งเชื้อจะปนเปื้อนในอาหารและน้ำดื่ม สามารถติดต่อกันได้ทางน้ำมูกน้ำลายของผู้ป่วยเด็กที่ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดก่อน ต่อมาจะถ่ายอุจจาระเป็นน้ำปนฟอง และมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว มีอาการอาเจียนร่วมด้วย หากเป็นมากอาจทำให้เด็กขาดน้ำรุนแรง เสียชีวิตได้ ซึ่งอันตรายเนื่องจากเชื้อไวรัสโรต้า สามารถติดต่อกันง่ายมาก เชื้อจะออกมากับอุจจาระเด็กที่ป่วย หรืออาจมีการปนเปื้อนในอาหารและน้ำดื่ม บางครั้งเชื้อติดอยู่กับของเล่นเด็ก เมื่อเด็กหยิบเข้าปากก็ติดเชื้อได้

– สำหรับการป้องกันไม่ให้เด็กป่วย ผู้ปกครองต้องหมั่นล้างมือให้เด็ก ทำความสะอาดของเล่นบ่อยๆอาหารจะต้องปรุงสุกด้วยความร้อน และดื่มน้ำสะอาดจากการต้มสุก – สำหรับแม่หลังคลอดแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน เด็กจะได้รับภูมิต้านทานโรคจากแม่ ไม่ทำให้ป่วยง่าย

– ส่วนในกลุ่มประชาชนทั่วไป ให้รับประทานอาหารที่ปรุงสุกด้วยความร้อน หลีกเลี่ยงรับประทานอาหารที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ ใช้ช้อนกลางตักอาหาร หรือที่รู้จักกันในประโยคว่า “กินร้อน ช้อนกลาง” และล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารและหลังจากใช้ห้องน้ำทุกครั้ง มีการดูแลผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง

ในกรณีเด็ก ให้เด็กกินอาหารเหลวบ่อยๆ เช่น น้ำข้าวต้ม น้ำแกงจืด รวมทั้งกินนมแม่ตามปกติ ส่วนเด็กที่กินนมผสมให้กินตามปกติแต่ลดปริมาณลงครึ่งหนึ่งต่อมื้อ โดยให้กินสลับกับน้ำลายผงน้ำตาลเกลือแร่โออาร์เอสครึ่งหนึ่ง อาการเด็กจะค่อยๆ ดีขึ้นเป็นปกติได้ภายใน 8-12 ชั่วโมง หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น ถ่ายเหลวไม่หยุด เด็กซึมลง ปากแห้งมาก ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม ให้พาไปพบแพทย์โดยเร็ว ส่วนในกลุ่มประชาชนทั่วไปและผู้สูงอายุ ให้รับประทานอาหารตามปกติ แต่ควรเป็นอาหารที่อ่อน ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร และให้ดื่มผงน้ำตาลเกลือแร่โออาร์เอสแทนน้ำและดื่มให้หมดภายในวันนั้น หากอาการไม่ดีขึ้น ยังถ่ายบ่อย อาเจียน รับประทานอาหารไม่ได้ กระหายน้ำมากกว่าปกติ มีไข้สูง หรือถ่ายอุจจาระเป็นมูกปนเลือด ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

หากมีข้อสงสัยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422.