คลายข้อสงสัย!! เหตุใดนมอัดเม็ดสวนจิตรลดาจึงขายดีจนขาดตลาด

เริ่มต้นต้องเท้าความก่อนว่าโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดามีการเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2504 พื้นที่บริเวณสวนจิตรลดาจะเป็นพื้นที่การเกษตรหรือเป็นทุ่งนาที่โล่งกว้าง ซึ่งในสวนจิตรลดาได้มีการแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ โครงการที่ไม่ใช่ธุรกิจ กับ โครงการที่เป็นกึ่งธุรกิจ

การเริ่มต้นผลิตภัณฑ์นมอัดเม็ดนั้นมาจาการที่พระองค์ท่านอยากให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี จึงมีการวิจัยจนได้พันธุ์วัวนมผสมสีขาวดำที่ให้ปริมาณนมที่มาก จากนั้นจึงเผยแพร่พันธุ์วัวนมให้แก่เกษตรกรจนเกษตรกรสามารถที่จะผลิตนมวัวและมีรายได้ของตนเอง ในขณะที่สวนจิตรลดานั้นสามารถผลิตน้ำนมดิบเองได้แล้วยังรับซื้อน้ำนมจากเกษตรกรผ่านสหกรณ์โคนมเพื่อนำมาผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ นมผง นมอัดเม็ด หรือผลิตภัณฑ์เนย

และต่อมาเมื่อมีการเลี้ยงโคนมมากขึ้นปริมาณน้ำนมก็เยอะ ในปี 2512 จึงเกิดน้ำนมล้นตลาด พระองค์ท่านจึงได้มีการสร้างโรงงานนมผงขึ้นมาเพื่อแปรรูปน้ำนมดิบพร้อมทั้งยืดระยะเวลาของนมให้มากขึ้น ดังนั้นเมื่อมีโรงนมผง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงมีการทดลองทำนมอัดเม็ด ซึ่งต่อมานมอัดเม็ดก็ได้มีการผลิตในเชิงพาณิชย์ จัดจำหน่ายได้ และเป็นที่ต้องการของตลาด เพราะสมัยนั้นมีแต่ลูกอมน้ำตาลที่ไม่มีประโยชน์แต่นมอัดเม็ดมีปริมาณของนมมากและมีประโยชน์สูงกว่า โดยปัจจุบันกำลังการผลิตอยู่ที่ 50,000 กว่าซองต่อวัน แต่ก็ยังไม่พอ เพราะผู้บริโภคมีความต้องการมากขึ้น

แม้จะผลิตออกมาได้มาก แต่ช่องทางการจำหน่ายก็เยอะไม่แพ้กัน ทั้งในทุกร้านของโครงการหลวง ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อต่างๆ เพราะเป็นที่ต้องการของทั้งคนไทยและต่างประเทศ นั้นเลยทำให้เมื่อนำไปวางจำหน่ายหมดในเวลาไม่นาน ซึ่งกำลังการผลิตก็ไม่สามารถเพิ่มได้เนื่องจากโครงการก็เป็นโรงงานขนาดตัวอย่างเท่านั้น ด้วยปริมาณที่ไม่พอต่อการขายเกือบทุกที่ในที่ต่างๆ ดังนั้นเฉพาะทางร้านของโครงการจึงมีการจำกัดจำนวน 20 ซองต่อคน เพื่อกระจายให้ทั่วถึงกับทุกคนที่มาแล้วต้องการซื้อ

เพื่อนๆหายสงสัยกันแล้วใช่ไหมว่านมอัดเม็ดสวนจิตรลดาที่ตามหากันทำไมถึงมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภท ด้วยความอร่อยและคุณภาพที่อัดแน่นเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายๆคนอยากจะหาซื้อมารับประทาน จะเห็นได้ว่าพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านนั้นยาวไกลมาก จากเมื่อ 50 ปีที่แล้วที่พระองค์ท่านเริ่มที่จะทดลองเลี้ยงวัวนมแรกๆ จนถึงปัจจุบันนี้ที่อุตสาหกรรมโคนมบ้านเรามีการเจริญเติบโตมาก สามารถแปรรูปผลิตภัณฑ์น้ำนมดิบไปหลากหลายผลิตภัณฑ์พร้อมทั้งส่งออกไปยังประเทศใกล้เคียงอีกด้วย