บอร์ดเอสเอ็มอีแบงก์ไฟเขียว เพิ่มวงเงิน 7,000 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อแฟคตอริ่ง ผ่าน 2 มาตรฐาน ชูจุดเด่นดอกเบี้ยต่ำสุดในระบบ แค่ร้อยละ 3.99 ต่อปี แจงวัตถุประสงค์เสริมสภาพคล่องให้แก่เอสเอ็มอีทั่วประเทศ หลังส่งออเดอร์แก่คู่ค้าในช่วงเทศกาล
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) เปิดเผยว่า จากกระแสตอบรับสินเชื่อ “มาตรการเร่งเบิกจ่ายแฟคตอริ่งทั่วไทยในวันเดียว” และ “มาตรการเร่งเบิกจ่ายแฟคตอริ่งคู่ค้าเอกชน” หลังจากเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อเดือน ก.ย. 2559 ที่ผ่านมา ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3.99 % ต่อปี ปรากฏว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ความสนใจอย่างสูง โดยมียอดการใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสูงสุดในช่วงเดือน ธ.ค.2559 เพิ่มขึ้นถึง 45 % เปรียบเทียบจากเดือน ธ.ค. 2558 โดยช่วงระหว่างเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2559 ของมาตรการดังกล่าว รวมเป็นจำนวนเงิน 1,591 ล้านบาท สูงกว่าปี 2558 จำนวน 9 %
ทั้งนี้ เพื่อเสริมสภาพคล่องธุรกิจให้แก่เอสเอ็มอีทั่วประเทศ ช่วยให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะในไตรมาสแรกนี้ ที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนจำนวนมากภายหลังการส่งสินค้าให้คู่ค้าทั้งในเทศกาลปีใหม่ และตรุษจีนที่ผ่านมา ซึ่งหากผู้ประกอบการนำเอกสารใบแจ้งหนี้มาเปลี่ยนเป็นเงินสดจากบริการดังกล่าว ทางประธานกรรมการธนาคาร (นายสมชาย หาญหิรัญ) และ คณะกรรมการธนาคาร จึงพิจารณาอนุมัติสินเชื่อแฟคตอริ่งทั้ง 2 มาตรการ เพิ่มในวงเงินรวม 7,000 ล้านบาท สำหรับปี 2560 แบ่งเป็น 2 มาตรการดังนี้
1.มาตรการเร่งเบิกจ่ายแฟคตอริ่งทั่วไทยในวันเดียว ดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้น 3.99% ต่อปี ซึ่งถือเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสุดในระบบ สำหรับลูกค้าที่ลูกหนี้การค้าเป็นหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยของรัฐ ราชการส่วนท้องถิ่น องค์การมหาชน หรือ บริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือตลาดหลักทรัพย์ MAI
และ 2.มาตรการเร่งเบิกจ่ายแฟคตอริ่งคู่ค้าเอกชน ดอกเบี้ย4.99 % ต่อปี สำหรับลูกค้าที่มีลูกหนี้การค้าเป็นหน่วยงานเอกชน ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจขายปลีก-ส่ง อุปโภค บริโภคต่างๆ เป็นต้น โดยการให้บริการดังกล่าวจะสิ้นสุดภายใน 31 ธ.ค. 2560
นายมงคล กล่าวเสริมว่า สินเชื่อแฟคตอริ่งของธนาคารจะรับซื้อลูกหนี้ทางการค้าหลังส่งมอบสินค้าและบริการแล้ว (Post Shipment) สูงสุดไม่เกิน 90% ของมูลหนี้ทางการค้า โดยลูกหนี้การค้าแต่ละรายการมีมูลค่างานตั้งแต่ 1 หมื่นบาทขึ้นไป สูงสุดรายละไม่เกิน 15 ล้านบาท เพียงนำเอกสารการแจ้งหนี้ของลูกหนี้การค้าที่ผ่านขบวนการวางบิลเรียบร้อยแล้ว มาติดต่อขอใช้บริการแฟคตอริ่ง เพื่อเปลี่ยนเอกสารการแจ้งหนี้เป็นเงินสดกับธนาคาร โดยไม่ต้องรอครบกำหนดเรียกเก็บเงินจากลูกหนี้การค้า จึงทำให้กิจการมีเงินทุนหมุนเวียนการทำธุรกิจ อย่างคล่องตัว ไม่ติดขัด โดยไม่มีปัญหาด้านเงินทุน และยังเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในธุรกิจ ผู้ที่สนใจติดต่อได้สาขาของธนาคาร