ฉีกกฎเหล็กอุปสรรค 3 ข้อในธุรกิจครอบครัว


ดร.สิริรัฐ บุญรักษา ที่ปรึกษาธุรกิจครอบครัว บริษัทแฟมซ์กรุ๊ป จำกัด และอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า….

ธุรกิจครอบครัวในมุมมองของใครหลายคน คือ มีมุมมองเดียวกัน ทุกคนมีส่วนร่วมในอุดมการณ์และความเชื่อในสิ่งที่ควรทำเหมือนๆ กัน ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกพิเศษที่มุ่งมั่นและภาคภูมิใจ ที่เป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจ , ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เข้มข้น การที่ทุกคนในครอบครัวจะยึดติดกันไว้แม้ในยามยาก รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ และเป็นที่แน่นอนว่ามีผลบวกย่อมมีผลลบ ซึ่งมีความท้าทายต่อผู้การบริหารธุรกิจครอบครัวอย่างเนืองๆ โดยมีอุปสรรค 3 ข้อสำคัญที่ธุรกิจครอบครัวไม่ได้ไปต่อพร้อมแนะนำวิธีการแก้ไข ได้แก่

1. ผู้สืบทอดหรือทายาท

โดยเฉพาะคนรุ่นพ่อแม่ยังไม่ไว้วางใจในตัวทายาทที่จะเข้าสืบทอดตำแหน่งมากนัก ทำให้พนักงานเกิดความสับสนว่าจะเชื่อฟังใคร ผู้สืบทอดตำแหน่งร้อนวิชาเกินไป ต้องการที่จะดำเนินธุรกิจในแบบของตนเองโดยไม่ประเมินจุดแข็ง จุดอ่อน จนทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้สืบทอดตำแหน่งมองข้ามหรือไม่ให้ความสำคัญกับค่านิยมองค์กร จนทำให้ค่านิยมองค์กรผิดเพี้ยนไป ผู้สืบทอดตำแหน่งไม่ค่อยให้ความสำคัญกับพนักงาน จึงไม่สามารถรักษาพนักงานเก่าหรือพนักงานที่มีความสามารถไว้กับองค์กรได้ รวมถึงไม่สามารถดึงคนเก่งเข้ามาทำงานในองค์กรได้ สำหรับวิธีแก้ไขนั้น คือ คุณพ่อคุณแม่ควรปลูกฝังลูกที่มีแนวโน้มเป็นผู้สืบทอดธุรกิจครอบครัวคนต่อไป ให้เขามีความคุ้นเคยกับธุรกิจครอบครัวนั้นๆ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและเติบโตมากับมันตั้งแต่วัยเยาว์ โดยในสมัยเด็กมักได้ติดตามพ่อแม่ไปที่บริษัท จึงมีความใกล้ชิดคุ้นเคยและมีโอกาสได้สัมผัสกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการ ระยะแรกเริ่มนี้คือ ระยะการตระเตรียมทายาทในวัยเด็กก่อนเข้าสู่ธุรกิจ เปรียบเสมือนการสร้างพื้นฐานเพื่อนำไปสู่ระยะที่ชัดเจน

2. คนให้ไม่พร้อม

ระบบอุปถัมภ์เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ ในการทำกิจการครอบครัว แน่นอนว่าแม้เกิดในตระกูลเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้มีความรับผิดชอบเท่ากันไปเสียทุกคน บางคนมาก บางคนน้อย บางคนแทบไม่มีเลย คิดเสียว่าเป็นบริษัทของพ่อแม่เรา ยังไงเสียก็ไม่ถูกไล่ออก ผลาญเงินไปวันๆ นั่งเสียเวลา เปลืองอากาศหายใจยังไงก็ไม่มีใครกล้าตักเตือน เรียกว่าสบายจนเคยชิน แบบนี้ก็ลำบาก แต่เชื่อแน่ว่ามีอยู่ทุกกิจการของครัวเรือน ดังนั้นก่อนที่พ่อแม่จะส่งต่อธุรกิจให้ลูก ควรมั่นใจว่าทายาทพร้อมที่จะดูแลธุรกิจต่ออย่างตลอดรอดฝั่ง เพราะเหตุใดถึงเช่นนั้น แน่นอนว่าผู้ส่งต่อธุรกิจครอบครัวจะไม่มีตำแหน่ง ไม่มีเงินเดือน ถ้าไม่มีเงินสำรองดูแลชีวิตยามแก่ชรา จะอยู่อย่างไร เพราะฉะนั้นข้อ 2 จึงเป็นหัวใจสำคัญของการวางแผนบริหารธุรกิจครอบครัวให้มีความสมบุรณ์แบบ ทายาทสานต่อธุรกิจครอบครัวได้ พ่อแม่ที่มอบธุรกิจครอบครัวให้ลูกก็มีความสุขและไม่ลำบาก เป็นต้น

3. ธุรกิจไม่พร้อม

กล่าวถึงโครงสร้างของธุรกิจครอบครัวได้ถูกวางแผนไว้ดีหรือยัง ยกตัวอย่างเช่น การตัดสินใจทุกอย่างขององค์กรขึ้นอยู่กับผู้บริหารเพียงคนเดียว แล้วสมาชิกในธุรกิจครอบครัว พนักงานในองค์กร คืออะไร ? ฉะนั้นธุรกิจไม่พร้อมนอกจากเรื่องของการวางแผนแล้ว สภาพจิตใจของคนในองค์กรทุกคนย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน ดังนั้นการให้โอกาสกับทุกคน ผู้นำองค์กรเปิดกว้างให้ทุกคนได้เสนอแนะความคิดของตนเองในเรื่องการทำงาน ถือว่าเป็นเกราะสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจครอบครัวมีความพร้อม

สิ่งที่ทายาทผู้สืบทอดต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ คือ ทำความเข้าใจกับโครงสร้างการบริหารงาน วัฒนธรรม และความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมงานที่รุ่นพ่อแม่ได้วางไว้ ทั้งนี้เพื่อหาจุดเชื่อมโยงของมุมมองและทัศนคติระหว่างทีมงานรุ่นพ่อและทีมงานรุ่นใหม่ ในขณะที่เราต้องสร้างผลงานให้เกิด เราก็ต้องคำนึงถึงวิธีการสร้างผลงานให้เกิด เราก็ต้องคำนึงถึงวิธีการสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับให้กับตัวเราและผลงานของเราด้วย