นักธุรกิจผู้บุกเบิกเกาะพะงัน จากพ่อค้าแม่ขาย สู่การสร้างธุรกิจตามแบบฉบับสายเลือดพะงัน


พบกับเรื่องราวครอบครัวนักธุรกิจผู้บุกเบิกเกาะพะงัน จากพ่อค้าแม่ขาย ได้ใช้วิสัยทัศน์ ขยับเป็นเจ้าของธุรกิจเครือลิ้มปิพงษ์ที่ครอบคลุมสินค้าอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์ก่อสร้างแบบครบวงจร และแนวทางการทำธุรกิจสีขาวที่แน่วแน่ พร้อมเรื่องราวจากตัวแทนทายาทรุ่นที่ 2 คุณอภิชาติ ลิ้มสุวรรณ

โดยแต่เดิมเกาะพะงันเป็นเพียงเกาะที่มีการทำการเกษตรและการประมง ไม่ได้เป็นเกาะที่ใครๆสนใจมากนัก ซึ่งคนส่วนใหญ่นั้นทำสวนมะพร้าวและทำประมง ซึ่งทางคุณปู่ของคุณอภิชาติเองเริ่มแรกเดิมทีทำอาชีพเป็นพ่อค้าคนกลางรับมะพร้าวแห้งและสดจากชาวสวนในเกาะมาจัดจำหน่ายที่กรุงเทพฯ ส่วนคุณตาคุณยายมีอาชีพค้าขายขายอุปกรณ์การเรียนและเครื่องเขียน  ซึ่งถือเป็นเจ้าแรกบนเกาะพงัน หลังจากนั้นได้ขยับขยายกิจการเป็นธุรกิจค้าไม้ ต่อมาคุณพ่อของคุณอภิชาติเองเริ่มที่จะทำบังกะโลให้นักท่องเที่ยวเช่าเนื่องจากเห็นว่านักท่องเที่ยวมีจำนวนมากขึ้น และเริ่มหาสินค้ามาขายจำพวกสินค้าอุปโภคและบริโภค ซึ่งก็เป็นเจ้าแรกที่เริ่มต้นธุรกิจนี้

ต่อมาทางคุณพ่อและคุณแม่ได้ให้คุณอภิชาติและพี่น้องอีก 3 คนเข้ามาช่วยบริหารธุรกิจต่างๆ จากบังกะโลเล็กๆก็ถูกยกระดับเป็นรีสอร์ทโดยมีความตั้งใจที่จะให้น้องสาวที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการโรงแรมบริหารงานเป็นหลัก ซึ่งรีสอร์ทแห่งนี้ใช้ชื่อว่า “จัทรมาศ” โดยเป็นรีสอร์ทที่แสดงถึงความเป็นเกาะพะงันได้อย่างลงตัว บริหารจัดการโดยมีทายาททั้ง 4 คนคอยช่วยกัน

โดยในตอนนี้ธุรกิจโรงแรมบนเกาะพะงันถือได้ว่ามีการแข่งขันกันที่สูงขึ้น มีโรงแรมเกิดขึ้นมามากมาย ซึ่งทางทายาททั้ง 4 ก็ จึงต้องมีการวางแผนการบริหารงานให้ดี ซึ่งแต่เดิมทางโรงแรมมีพนักงานเพียงแค่ 20 คน แต่ด้วยระบบการบริหารจัดการทรัพยากรทำให้ในตอนนี้มีพนักงานอยู่ด้วยกัน 70 คนเพียงพอต่อการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ นอกจากนี้ทางโรงแรมยังมีการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยว คือ รับจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักนักท่องเที่ยว และยังแตกไลน์ธุรกิจออกมาเป็นโรงแรมโฮสเทลขนาดเล็กราคาถูกเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งอีกด้วย

ตอนนี้จัทรมาศถือได้ว่าประสบความสำเร็จขึ้นมาอีกขั้น จะเห็นได้จากนักท่องเที่ยวที่เคยใช้บริการกลับมาใช้บริการอีก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการทำธุรกิจโรงแรม นอกจากธุรกิจโรงแรมที่ต้องดำเนินไปก็ยังมีธุรกิจที่ทางเครือลิ้มปิพงษ์ได้ทำมา ซึ่งทายาททั้ง 4 คนก็สามารถทำให้พ่อและแม่ภูมิใจได้ว่าธุรกิจที่สร้างขึ้นมานั้นทายาทสามารถสานต่อธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ ด้วยแรงกายและแรงใจของทายาททุกคนที่ต้องการพัฒนาธุรกิจให้เดินต่อไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เชื่อได้ว่าธุรกิจในเครือลิ้มปิพงษ์จะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนด้วยสายเลือดคนพะงันอย่างแท้จริง