จุดเริ่มต้นของชื่อเสียงที่ยาวนาน ตำนานสุกี้โบราณ “สุกี้เรือนเพชร”


จุดเริ่มต้นของชื่อเสียงที่ยาวนาน

เรามีการเริ่มต้นมามากว่า 50 ปี ตั้งแต่อากงมาจากเมืองจีนแล้วเริ่มเข้ามาอยู่บ้านแพร้วโดยการทำสวนแล้วขายเข้ากรุงเทพ ต่อมาเริ่มผันตัวจากทำสวนเองมาเป็นคนกลางรับผลผลิตมาขายปากคลอง เลยคลุกคลีกับผลผลิตทางการเกษตร แต่การเป็นคนกลางนั้นจะต้องมีการขายแบบเครดิต ท่านจึงคิดที่จะเปลี่ยน ซึ่งอยากขายสินค้าที่ถือเป็นเงินสด ก็เลยคิดถึงร้านอาหารที่เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องกิน

จากที่อากงนั้นเป็นชาวสวนเลยมีความรู้ทางด้านวัตถุดิบ และท่านเป็นคนที่ชอบหาของอร่อยทานอยู่แล้ว ช่วงที่นำของไปขายที่ปากคลองก็ได้มีโอกาสไปเยาวราชและตระเวรกินเพื่อค้นหาสูตรว่าจะขายอะไรดี และแล้วก็มาถูกใจที่สุกี้เพราะวัตถุดิบนั้นหาง่ายเราคุ้นเคย ทั้งผักสด เนื้อต่างๆ แต่สูตรสุกี้ที่มีในช่วงนั้นหลากหลายมาก มีทั้งสูตรกวางตุ้ง สูตรไหหลำ และท่านก็ได้ถูกใจสุกี้สูตรไหหลำที่มีจุดเด่นที่ เต้าเจี้ยว การหมักเนื้อและน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้

จากนั้นท่านจึงได้มีการนำสุกี้สูตรไหหลำนั้นมาพัฒนาและดัดแปลง คงความเป็นไหหลำ แต่มีการพัฒนาให้ถูกปากคนไทย ให้เป็นสูตรโบราญของเรือนเพชรเอง ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์ และได้มีการลองตลาดโดยการนำสิ่งที่ตนพัฒนาไปให้ชิม ในช่วงนั้นจะมีน้ำจิ้มแบรนด์ดังมากมายและแม้คนจะมีความยึดติดในแบรนด์อยู่บ้าง แต่ก็ได้ผลตอบรับที่ดีเมื่อไม่ให้ผู้ที่ชิมรู้ว่าเทียบกับแบนรด์น้ำจิ้มไหน นั้นจึงทำให้ท่านมั่นใจว่าสามารถที่จะเปิดร้านได้ และด้วยความเชื่อมั่นในคุณภาพของอาหาร จึงมีการเปิดร้านแรกอยู่ที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นการเปิดตลาดที่ดีเพราะเป็นร้านอาหารแรกในแถวนั้นเลยก็ว่าได้ โดยมีที่มาของชื่อร้าน “เรือนเพชร” มาจาก 2 คำ คือเรือนที่มาจากบ้านที่อยู่ และเพชรก็คือเพชรบุรีตัดใหม่ชื่อถนนนั้นเอง

เมื่อมาถึงรุ่นคุณพ่อนั้นก็ได้มีการยึดมั่นในเจตนารมณ์เดิมที่ว่า “ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด คุณภาพที่ดีที่สุด ให้กับคนที่มาทาน” และก็ยังยึดมั่นวิธีการบริหารงานแบบครอบครัว ที่ทั้งเจ้าของและพนักงานก็จะถูกดูแลเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน และมีการพัฒนาจากเตาสุกี้ที่เป็นแก๊สให้เป็นกระทะไฟฟ้าที่ไม่มีควันจึงมีการพัฒนาร้านให้ติดแอร์และมีพนักงานมากขึ้นเพียงพอต่อลูกค้าที่มีจำนวนมากขึ้นด้วย

ปัจจุบันเรือนเพชรได้ส่งต่อธุรกิจมาสู่รุ่นหลาน บริหารงานโดยคุณโอ๊ต พงศ์ธรรศ เลิศธนพันธุ์ ซึ่งเรียนจบคณะนิเทศศาสตร์ โดยคุณโอ๊ตเองได้นำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาเป็นเครื่องมือในการรับช่วงต่อกิจการ และกำลังเรียนปริญญาโท ที่เซี่ยงไฮ ประเทศจีน ในการบริหารธุรกิจ ซึ่งเมื่อก่อนที่ร้านจะไม่มีพนักงานที่พูดจีนได้ หรือไม่มีเมนูภาษาจีนเลยทำให้ชาวจีนกลัวแล้วไม่กล้าเข้ามา จึงได้มีการทำเมนูเป็นภาษาจีน ปัจจุบันไม่ได้มีแค่สุกี้เพียงอย่างเดียว แต่ได้มีการแตกไลน์อาหารโดยมีเมนูอาหารจีนเพิ่มมาจากสมัยอดีต ซึ่งบางเมนูก็ขายดีมาตั้งแต่อดีต เช่นน่องไก่เรือนเพชร ที่เป็นน่องไก่ติดสะโพกที่นำไปทอดแล้วทานกับซอสซีอิ๊ว นอกจากนี้ทางร้านยังมีโรงงานผลิตวัตถุดิบเอง เช่น ลูกชิ้นต่างๆ อีกด้วย

ปัจจุบันมีการบริหารจัดการให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น พนักงานได้มีการฝึกว่าควรจะดูแลลูกค้าอย่างไร และพนักงานก็มีความเป็นทีมเวิร์ค แบ่งหน้าที่ชัดเจนพร้อมทั้งช่วยกันดูแลร้าน มีระบบการสั่งอาหารที่แม่นยำโดยระบบดิจิตอล และสามารถดูได้ว่าทำหรือยัง ถึงโต๊ะหรือยัง

เชื่อได้ว่าเรื่องราวการทำธุรกิจของ “สุกี้เรือนเพชร” จะเป็นอีก 1 เรื่องราวที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่มีฝันอยากทำธุรกิจได้สรรสร้างธุรกิจที่มีคุณภาพ ใส่ใจผู้บริโภค เพราะธุรกิจร้านอาหารนอกซะจากความอร่อยของรสชาติอาหารแล้ว การบริการก็ถือเป็นอีก 1 หัวใจหลักที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ซึ่งสุกี้เรือนเพชรก็ทำให้เราเห็นแล้วว่าไม่ว่าจะผ่านมากี่ศตวรรษธุรกิจที่ทำด้วยใจ ใส่ใจผู้บริโภค สามารถประสบความสำเร็จมาได้อย่างยาวนานจวบจนถึงปัจจุบัน