อั๊ง ข้าวต้ม ธุรกิจร้านอาหารแบบครอบครัวเล็กๆ ที่เปิดให้บริการมากว่า 22 ปี โดยในช่วงเริ่มเเรกเป็นการบุกเบิกของ "เตี่ยกับแม่ คือ คุณบุญมี จันทวงษ์ และ คุณสมศรี จันทวงษ์ ขายกันแค่ 2 คน เนื่องจากช่วงที่เริ่มกิจการ พวกลูกๆ ทั้ง 5 คนไปโรงเรียนกันหมด

คุณนิภาลัย จันทวงษ์ ทายาทคนโต เล่าว่า ในช่วงแรกๆ ที่ขายมีแค่กับข้าว 3 หม้อ คือข้าวต้มปลา,ข้าวต้มเป็ด และข้าวต้มบะเต็ง ซึ่งขณะนั้นลูกค้ามีไม่มากนักเพราะทำเลอยู่ในหมู่บ้าน (หมู่บ้านสุขสันต์ ย่านบางแค) แต่พอขายไปซักระยะ ก็เริ่มมีลูกค้ามารับประทานมากขึ้น เตี่ยและแม่จึงเริ่มคิดเมนูเพิ่มเติม โดยเป็นเพิ่มเมนูอาหารจีนตามที่แม่มีความถนัด เน้นเป็นกับข้าวที่ทานคู่กับข้าวต้มขาว (ข้าวต้มกุ๊ย) เช่น หมูบะเต็ง จับฉ่าย ผัดใบปอ ขาหมูพะโล้ ขาไก่พะโล้ เป็นต้น ซึ่งความโดดเด่นที่ทำให้ลูกค้าติดใจ ส่วนหนึ่งมาจากรสชาติจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะเป็นสูตรที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของคุณสมศรี ทำให้กิจการเริ่มดีขึ้นตามลำดับ เริ่มมีลูกค้าจากต่างหมู่บ้าน หรือบริเวณใกล้เคียงเดินทางมารับประทานมากขึ้น บางวันถึงขั้นต้องแจกบัตรคิวเลยทีเดียว

จากนั้น เมื่อบรรดาลูกๆ ทั้ง 5 คนจบการศึกษา ด้วยดีเอ็นเอ ที่ชื่นชอบและถนัดในการทำร้านอาหารที่ซึมซับมาตั้งแต่รุ่นพ่อและแม่ ลูกทุกคนจึงเลือกมาช่วยกิจการที่ร้าน อั๊ง ข้าวต้มปลา จึงเข้าสู่รุ่นนิวเจนเนอเรชั่นอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีเตี่ยและแม่เป็นผู้กุมบังเหียนอยู่เบื้องหลัง และคอยควบคุมสูตรอาหารทุกเมนูให้รสชาติคงเดิมและได้มาตรฐานตามแบบฉบับเดิม

 เมนูขาไก่พะโล้

หมูบะเต็ง

กุ้งผัดสะตอ

การบริหารร้านโดยรุ่นลูกทั้ง 5 คน เริ่มมีการปรับรูปแบบธุรกิจให้ทันสมัย ด้วยการสร้างแบรนด์ตามแบบฉบับธุรกิจครอบครัว ตั้งแต่ปรับรูปแบบเมนูอาหาร ดีไซน์ป้ายหน้าร้านให้โมเดิร์นขึ้น นอกจากนี้ จากที่น้องชายคนที่สอง มีโอกาสได้ไปเรียนทำอาหารกับกุ๊กมืออาชีพที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อกลับมาจึงรับหน้าที่เป็นกุ๊กประจำร้าน และมีการเพิ่มเติมเมนูอื่นๆ  ที่เป็นประเภทอาหารตามสั่ง ตามมาด้วยเมนูประเภทอาหารสำเร็จรูป ทำให้เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงตอบโจทย์ลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น

ถึงจะเป็นร้านไม่ใหญ่มาก ทำกันเองในครอบครัวจันทวงษ์ แต่อั๊ง ข้าวต้มปลาก็มีเมนูที่ลูกค้า มาแล้วต้องสั่ง (สั่งเยอะมาก) หรือเรียกว่าเป็นซิกเนอเจอร์ดิช คือ เมนูต้มจับฉ่าย และ ปลาสลิดทอดกรอบ ที่เลือกเป็นทอดกรอบธรรมดา หรือ เลือกเป็นแบบยำปลาสลิดทอดกรอบรสชาติจัดจ้าน

การทำธุรกิจร้านอาหาร คุณนิภาลัย บอกเราว่า โชคดีที่ทางร้านมีลูกค้าที่ค่อนข้างอยู่ตัว เพราะการขายอาหารเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องรับประทาน อีกทั้งมีลูกค้าประจำและลูกค้าใหม่แวะเวียนมาอุดหนุนอยู่ตลอด เคยเจอปัญหาคู่แข่งบ้าง แต่ในที่สุดก็ปิดตัวไป หรือในช่วงเศรษฐกิจที่แย่ อาจส่งผลให้ยอดขายตกลงบ้าง แต่ก็พออยู่ได้

คติประจำใจของร้านเรา คือ แม้ฐานจะแน่นแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงจะไม่ชิลล์เกิน

นอกจากนี้ จะให้บริการให้ดีที่สุด ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาทานร้านจะไม่เกี่ยงเรื่องราคาเลย ทำให้เรายิ่งต้องรักษาคุณภาพ “เชื่อไหม เคยมีลูกค้าเล่าว่าเคยไปกินร้านอื่นที่แพงกว่า ไม่อร่อย และไม่ได้ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพมาทำ สิ่งที่เราฟัง และนำกลับมาคิดคือ แม้เราจะเป็นร้านข้าวต้มธรรมดา ก็ต้องพัฒนา รักษามาตรฐาน และทำทุกเมนูของเรา....ให้ดีที่สุด”  

ขอบคุณข้อมูล : คุณนิภาลัย จันทวงษ์ ทายาทรุ่นที่ 2 ร้าน "อั๊งข้าวต้มปลา" ร้านเก่าแก่ย่านบางแค