มากกว่าผู้จัดจำหน่ายปุ๋ย “PS เกษตรคลีนิค” มิตรแท้ของเกษตรกร


แน่นอนว่าประเทศไทยได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศแห่งเกษตรกรรม อันอุดมไปด้วยอาหารและพืชพรรณที่มาจากเกษตรกร แต่เราก็คงเคยได้ยินหรือได้เห็นมาบ้างถึงปัญหาของพี่น้องชาวเกษตรกรกับปัญหาความเป็นอยู่ที่ไม่สามารถเลี้ยงปากท้องตัวเองได้ หรือจะเป็นราคาผลิตที่ตกต่ำ จึงทำให้เกิดเป็นแนวคิดที่อยากให้คนทำมองไปเห็นรากฐานที่สำคัญ จึงเกิดเป็นศูนย์ความรู้ในการเพาะปลูกที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับเกษตรกร จากแนวคิดของคุณโจ ฤทธิ์วัตร พงษ์รพีมงคล ผู้ก่อตั้ง “PS เกษตรคลีนิค”

ย้อนกลับไปเมื่อตอนเริ่มต้นเดิมครอบครัวคุณโจทำอาชีพเกษตรกรปลูกข้าวมาก่อน โดยแต่ก่อนมีการเริ่มใช้ปุ๋ยในประเทศไทย 60-70 ปีมาก่อน โดยในสมัยก่อนไม่ว่าจะปลูกอะไรก็จะได้ผลผลิตที่ดีเนื่องมาจากดินมีความอุดมสมบูรณ์แตกต่างจากในสมัยนี้ที่ปลูกอะไรก็ขึ้นยาก เมื่อดินขาดความอุดมสมบูรณ์สิ่งที่เกษตรกรทำคือการเติมสารอาหารให้กับดินนั่นก็คือ ปุ๋ย นั่นเอง โดยเฉลี่ยแล้วต้นทุนการผลิตของเกษตรกรในการทำนาข้าวส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 5,000 – 6,000 บาทกว่าที่จะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตไปจำหน่าย แต่เมื่อนำไปจำหน่ายแล้วราคาข้าวกลับตกลงไปทำให้เกษตรกรขาดทุน สาเหตุหนึ่งอาจจะมาจากเกษตรกรขาดความเข้าใจในการทำการเกษตรการใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องจึงทำให้ต้นทุนในการผลิตค่อนข้างที่จะสูง

โดย PS เกษตรคลีนิค ถือได้ว่าเป็นความตั้งใจของคุณโจที่อยากจะทำเป็นศูนย์การเรียนรู้สำหรับเกษตรกรได้มีความรู้ในการทำเกษตรอย่างแท้จริง ช่วยลดต้นทุนในการผลิต สิ่งสำคัญที่ทางคุณโจแนะนำสำหรับเกษตรกรคือ การตรวจค่า PS ของดิน เพื่อให้เรารู้ว่าควรใส่ปุ๋ยลงไปเท่าไหร่ถึงจะดี

ก่อนหน้าที่คุณโจจะมาทำการเกษตรก็ได้ทำค้าขายหลากหลายอย่าง จนมาวันหนึ่งในยุคที่ฟองสบู่แตกธุรกิจที่ทำไปไม่รอดจึงตัดสินใจกลับมาอยู่บ้าน จนวันหนึ่งได้ฟังข่าววิทยุว่าปุ๋ยขาดแคลนทุกปี และนั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นของการทำปุ๋ย ด้วยความที่คลุกคลีกับเกษตรกรมาตั้งแต่เด็กทำให้ในตอนแรกคุณโจใช้วิธีการทำปุ๋ยโดยผสมผสานระหว่างเคมีและเกษตรอินทรีย์เข้าด้วยกันซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ทำให้เกษตรกรได้ผลผลิตมากขึ้น 20% เลยทีเดียว

นอกจากจะขายปุ๋ยเป็นอาชีพหลักแล้วคุณโจยังกลายมาเป็นที่ปรึกษาให้กับเกษตรกร ให้ความรู้ในการใช้ปุ๋ย ขายในราคาที่เป็นธรรม เพื่อหวังว่าเกษตรกรจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการทำธุรกิจด้วยใจอย่างแท้จริง