“พาณิชย์” ประกาศจัดมหกรรมสตาร์ทอัพทุกปี ยันครั้งหน้ายิ่งใหญ่กว่าเดิม


 “พาณิชย์” เผยผลสำเร็จการจัดงาน Smart Startup 2017 ยอดผู้เข้าร่วมกว่า 6,500 ราย ช่วยสตาร์ทอัพขยายฐานลูกค้าเอสเอ็มอีได้ 15,000 ราย เพิ่มยอดขายกว่า 50 ล้านบาท ขณะที่เอสเอ็มอีลดต้นทุนธุรกิจกว่า 40% ประกาศเดินหน้าจัดต่อเนื่องทุกปี  ระบุครั้งหน้าจะจัดให้ใหญ่กว่าเดิม เพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจัดงาน “Smart Startup 2017 : โอกาสสู่ธุรกิจยุคใหม่” เมื่อวันที่ 16 – 18 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา  เกิดผลทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดทั้ง 3 วัน มีผู้เข้าชมงานฯ กว่า 6,500 ราย โดยสตาร์ทอัพมีโอกาสขยายฐานลูกค้าเอสเอ็มอีมากกว่า 15,000 ราย  เกิดการเติบโตทางธุรกิจ ยอดขายเพิ่มกว่า 50 ล้านบาท ในขณะที่เอสเอ็มอีสามารถลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจและเพิ่มยอดขายกว่า 40%

ทั้งนี้  จากผลสำเร็จการจัดงานฯ ในครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะขยายผลและมุ่งเน้นเป็นเวทีกลางในการเชื่อมโยงธุรกิจ สตาร์ทอัพ และ เอสเอ็มอี โดยใช้จุดแข็งของสตาร์ทอัพ และ เอสเอ็มอีมาเกื้อหนุน ส่งเสริม และเติมเต็มซึ่งกันและกัน พร้อมตั้งเป้าจัดงานฯ อย่างต่อเนื่อง โดยปีหน้า (2561) จะจัดงานฯ ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม และจะรวบรวมสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ทันสมัย และความคิดสร้างสรรค์เข้าร่วมงานให้มากขึ้น รวมทั้ง ผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่าง สตาร์ทอัพ และ เอสเอ็มอี อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศไทยปรับเปลี่ยนไปสู่ Innovation – based Economy หรือ เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และจะทำให้ผู้ประกอบการของไทยก้าวสู่การเป็น “สมาร์ท เอ็นเตอร์ไพร์ส” ได้อย่างเต็มตัวเช่นเดียวกัน

นางอภิรดี  เผยด้วยว่า การจัดงานที่ผ่านมา นอกจากการเจรจาจับคู่ธุรกิจแล้ว  ผู้ประกอบการเอสเอ็มอียังได้รับการวิเคราะห์ปัญหาของตนเองผ่านระบบ Smart Business Solution ซึ่งจะช่วยประมวลผลจุดอ่อนของธุรกิจในเบื้องต้น และจับคู่กับสตาร์ทอัพที่มีเครื่องมือหรือบริการในการแก้ปัญหาเพื่อปิดจุดอ่อนหรือเพิ่มประสิทธิภาพการประกอบธุรกิจของเอสเอ็มอีโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินตามหาสตาร์ทอัพที่เหมาะสมกับธุรกิจตนเอง ซึ่งระบบ Smart Business Solution ดังกล่าว ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ชาญฉลาดประเภทหนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ธุรกิจเอสเอ็มอีได้เป็นอย่างดี

ขณะที่สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมจัดแสดงธุรกิจมีจำนวนทั้งสิ้น 122 ราย แบ่งตามลักษณะ Pain Point (จุดอ่อนทางธุรกิจ) หลักของการทำธุรกิจ ได้แก่ Business Management (การจัดการธุรกิจ) , e-Commerce (พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์), Finance & Accounting (การเงินและบัญชี) , Logistics (การขนส่ง) และ Marketing (การตลาด) โดยมีเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจที่จะช่วยให้เอสเอ็มอีมีความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจมากขึ้น อาทิ PeakEngine, FlowAccount ธุรกิจที่ให้บริการระบบทำบัญชีออนไลน์ChomCHOB ธุรกิจให้บริการสะสมแต้มจากร้านค้า ธุรกิจ QueQ ระบบจองคิวร้านอาหารและบริการ ที่ช่วยแก้ปัญหาและสร้างโอกาสให้กับ SME ในการดำเนินธุรกิจ”

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเสริมสร้างองค์ความรู้การทำธุรกิจ ทั้งในรูปแบบเวิร์คช็อปนำเสนอเครื่องมือการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ผ่าน Lean Canvas การสร้างแบรนด์ และการตลาดดิจิตัล โดย Line@ ทั้งนี้ มีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 150 ราย และการสัมมนา New Economy Dialogue 2017 โดยวิทยากรจากทั้งในและต่างประเทศ มีผู้เข้าร่วมรับฟังมากกว่า 1,000 ราย

ภายในงานยังมีกิจกรรม “Dream Pitch” โดย ซีอาเซียนและสมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุนให้สตาร์ทอัพในกลุ่มที่มีบริการสนับสนุนเอสเอ็มอีมานำเสนอเครื่องมือและบริการใหม่ๆ ในการยกระดับประสิทธิภาพการประกอบธุรกิจ และสร้างโอกาสขยายการลงทุนได้มากกว่า 80 คู่เจรจา