สสว.ขยายกลุ่มเอสเอ็มอีร่วมกองทุนฟื้นฟูกิจการ 2 พันล้าน


สสว.ขยายกลุ่มเป้าหมายเอสเอ็มอีร่วมกองทุนฟื้นฟูกิจการ 2,000 ล้านบาท จากเดิมเฉพาะรายติดหนี้เสีย เพิ่มสู่กลุ่มประวัติการเงินดี แต่ประสบปัญหาทางธุรกิจ เผยผลดำเนินโครงการ 5 เดือนที่ผ่านมา อนุมัติแล้ว 251 ราย มูลค่า 219.19 ล้านบาท  

นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการฟื้นฟูกิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 โดยมีนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบขยายกลุ่มเป้าหมายของเอสเอ็มอีที่สามารถยื่นขอกู้เงินเพื่อฟื้นฟูกิจการจากกองทุนวงเงิน 2,000 ล้านบาท ที่ สสว.ดูแลอยู่ จากเดิมที่เป็นลูกหนี้ของสถาบันการเงินที่ค้างชำระ เป็นหนี้เสีย (NPL) หรือไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามเวลาต้องปรับสัญญาชำระหนี้ (Reschedule) ให้ครอบคลุมเอสเอ็มอีที่ประสบปัญหาทางการเงิน เนื่องจากยอดขายลดลงมาก หรือประสบปัญหาไม่มีเงินทุนเพียงพอที่จะปรับปรุงหรือขยายกิจการให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพื่อให้กิจการสามารถฟื้นฟูได้ โดยยังเป็นผู้มีวินัยทางการเงิน พยายามชำระหนี้ตรงตามเวลาและไม่มียอดค้างชำระกับสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีเอสเอ็มอีในกลุ่มที่มีลักษณะดังกล่าว เข้ามายื่นคำขอความช่วยเหลือจากศูนย์ SME Rescue Center ของกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก

นอกจากนั้น สสว.ยังได้ร่วมกับกรมการค้าภายใน และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ รับคำขอกู้ยืมเงินจาก ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการร้านอาหารหนูณิชย์ โครงการตลาดชุมชนเพื่อธุรกิจท้องถิ่น หรือตลาดต้องชม รวมทั้ง Biz Club THAILAND เพื่อให้การอุดหนุนใน การปรับปรุงสถานประกอบการ การยกระดับคุณภาพมาตรฐานสุขอนามัยของสินค้าและร้านอาหาร และการขยายกิจการอีกด้วย

ผอ.สสว. เผยด้วยว่า  กองทุนฟื้นฟู 2,000 ล้านบาท จะช่วยเหลือทั้งในรูปแบบให้เงินกู้ยืม ระยะยาวโดยไม่คิดดอกเบี้ย รวมถึงเข้าร่วมกิจการ หรือร่วมทุน หรือลงทุนกับเอสเอ็มอีที่ต้องการความช่วยเหลือทางการเงินด้วย  โดยระยะเวลาดำเนินโครงการที่ผ่านมาประมาณ 5 เดือน นับถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560   สสว. และหน่วยงานร่วม ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) SME Rescue Center สมาคมธนาคารไทย และ มทร.ธัญบุรี ได้ร่วมกันพิจารณาอนุมัติเงินกู้ระยะยาวปลอดดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไปแล้ว จำนวน 251 ราย เป็นจำนวนเงิน 219.19 ล้านบาท (เฉลี่ยรายละ 0.87 ล้านบาท) แบ่งเป็นกองทุนพลิกฟื้น จำนวน 174 ราย เป็นเงิน 153.54 ล้านบาท (เฉลี่ยรายละ 0.88 ล้านบาท) และกองทุนฟื้นฟู จำนวน 77 ราย เป็นเงิน 65.65 ล้านบาท (เฉลี่ยรายละ 0.85 ล้านบาท) โดย สสว.พยายามจะเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือจากกองทุนทั้ง 2 ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะมีคำขอความช่วยเหลือทางการเงินจากเอสเอ็มอีเข้ามาเป็นจำนวนมาก