“สรรพากร”รับประกัน ไม่ตรวจภาษีย้อนหลัง กล่อม SME ทำบัญชีเดียวส่งรายได้


“สรรพากร” กล่อมเอสเอ็มอีจดแจ้งบัญชีเดียวนำส่งรายได้  ชี้ได้สิทธิประโยชน์ยกเว้นและลดภาษีนิติบุคคล  ยืนยันไม่มีการตรวจสอบย้อนหลังแน่นอน ยอมรับกังวลกลุ่มสีเทาจำนวนมากยังไม่จดแจ้ง

นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวในงานสัมมนา “ความร่วมมือ 4 หน่วยงานกับสิทธิ์ประโยชน์จากการจดแจ้งภาษีอากร” ว่า รัฐบาลต้องการให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้ามาจดแจ้งรายชื่อเพื่อจัดทำบัญชีเดียว เพื่อให้ดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสถูกต้อง  ซึ่งโดยในอนาคต กรมสรรพากรจะลดอำนาจการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่เปลี่ยนมาเป็นการใช้ระบบข้อมูลตรวจสอบ ทำให้การเจรจากับเจ้าหน้าที่ของผู้ประกอบการต้องลดน้อยลง

อีกทั้ง กรมฯ จะปรับโครงสร้างในองค์กร จากส่วนกำกับดูแลผู้เสียภาษี เปลี่ยนมาเป็นส่วนแนะนำและตรวจสอบภาษี เพื่อต้องการให้คำแนะนำการเสียภาษีอย่างถูกต้อง

และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 ธนาคารจะเริ่มใช้มาตรฐานบัญชีเดียวเป็นเครื่องมือพิจารณาสินเชื่อ ดังนั้น จึงต้องการส่งเสริมเอสเอ็มอีจัดทำบัญชีเดียวในการประกอบกิจการ ยืนยันว่าจะไม่มีการตรวจสอบบัญชีย้อนหลังอย่างแน่นอน สำหรับจัดทำบัญชีเดียว หากเอสเอ็มอีมีกำไรสุทธิไม่เกิน 300,000 บาท ในปี 2559,2560 ได้รับการยกเว้นภาษี หากมีกำไรมากกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไปเสียภาษีร้อยละ 10

นายประสงค์ เผยด้วยว่า  บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่จัดตั้งก่อนวันที่ 1 มกราคม 2559 และมีทุนชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท มาจดแจ้งตามพระราชกำหนดการยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร  จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นและลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล  ดังนั้น  กรมสรรพากรจึงต้องการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสีเทา ซึ่งยังจัดทำบัญชีไม่ถูกต้องเข้าสู่ระบบบัญชีเดียวให้มากขึ้น ซึ่งยอมรับว่า ปัจจุบันกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าสู่ระบบ

ด้านนายกิตติพงษ์ อุรพีพัฒนพงศ์ รองประธาน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการต่างๆ เข้าสู่ระบบ ทำให้ภาครัฐมีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นจากการเสียภาษีจำนวนมาก อัตราภาษีจึงมีแนวโน้มลดลง เพื่อลดภาระให้กับผู้ประกอบกา

ขณะที่ นายสรกิจ มั่นบุปผชาติ รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า จากการเปิดเสรีตลาดอาเซียน ทำให้ตลาดในภูมิภาคนี้ กลายเป็นตลาดเดียว ดังนั้น  จึงหลีกหนีไม่พ้นปรับระบบบัญชีให้มีมาตรฐาน  ดังนั้น ทุกฝ่ายจึงต้องปรับตัวให้พร้อม   ขณะที่สมาคมธนาคารไทย จะเริ่มใช้ระบบบัญชีเดียววิเคราะห์สินเชื่อวันที่ 1 มกราคม 2562 เพราะธนาคารต้องการเห็นภาพผู้ประกอบการที่แท้จริง  ซึ่งการทำบัญชีเดียวอย่างโปร่งใสย่อมช่วยให้ได้รับการพิจารณาปล่อยสินเชื่อมากขึ้น