แนวคิดการทำธุรกิจของสาวสวยแห่ง Shuberry ก้าวเล็กๆที่ยิ่งใหญ่


“SHUBERRY” ธุรกิจที่เริ่มต้นจากวิกฤตร่างกายของตัวเอง เมื่อวันหนึ่งตัวเองได้ประสบอุบัติเหตุจนทำให้ไม่สามารถใส่รองเท้าคู่สวยได้อีกต่อไป แต่ด้วยความหลงใหลในแฟชั่นและความมุ่งมั่นที่อยากทำธุรกิจของตัวเอง ทำให้เธอสมใจในธุรกิจรองเท้าแฟชั่นที่ดีต่อสุขภาพ จึงเกิดเป็นรองเท้าแบรนด์ Shuberry กับกลยุทธ์การทำตลาดผ่านโซเชียลอย่างแยบยล โดยไม่ต้องเสียเงินกระตุ้นสักบาท บริหารงานโดยคุณป้อ กรกนก สว่างรวมโชค กับแนวคิดการทำธุรกิจที่สามารถสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จได้นั้นมีดังนี้

1. Product ถูกใจ 

แน่นอนว่าการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้นั้นสิ่งที่จะเป็นตัววัดความสำเร็จคือสินค้าของคุณขายได้ ซึ่งสินค้าที่ขายได้คือสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค รู้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไร และอะไรคือสิ่งที่ผู้บริโภคยังขาดและทำสิ่งนั้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เมื่อสินค้าสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้รับรองว่าธุรกิจไปรุ่งอย่างแน่นอน

2. Location ถูกที่

ทำเลถือว่าเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของธุรกิจ ซึ่งถ้าเราสามารถหากลุ่มเป้าหมายของธุรกิจเราเจอก็จะทำให้เราง่ายต่อการเลือกทำเลที่ตั้ง ซึ่งทางคุณป้อเองเคยทำแบรนด์อยู่ที่สยามสแควร์เพราะรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ที่นั่น เราไม่จำเป็นต้องไปหาทำเลที่มีราคาถูกกว่าแต่ไม่มีลูกค้า สู้เราจ่ายค่าที่แพงกว่าแต่มีลูกค้าซื้อสินค้าเราแน่ๆจะดีกว่าเช่าที่เพื่อรอลูกค้า

3. ระบบถูกต้อง 

การบริหารธุรกิจสิ่งที่เราต้องทำคือการวางแผนการจัดการธุรกิจให้เป็นระบบ ซึ่งถ้าเราสามารถวางแผนธุรกิจอย่างเป็นระบบได้แล้วนั้นจะสามารถลดความซับซ้อนในการทำธุรกิจลงได้ สามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจน และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

4. ความเร็ว ความว่องไว

คือการทำอะไรที่รวดเร็ว คิดได้แล้วลงมือทำเลย ไม่รีรอที่จะเริ่มลงมือทำ เป็นปัจจัยที่ทำให้คุณป้อประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ ใครจะคิดว่าการสร้างแบรนด์ต้องลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก แต่สำหรับคุณป้อแล้วใช้ความคิดตั้งแต่การออกแบบและการหาโรงงานเพื่อขึ้นรูปสินค้าให้ฟรีเพื่อนำไปเสนอขายลูกค้าและนำออเดอร์มาให้โรงงานผลิต ทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากการคิดและลงมือทำอย่างรวดเร็วจนทำให้สามารถสร้างแบรนด์ได้อย่างรวดเร็ว

5. ความยืดหยุ่น

ความยืดหยุ่น หรือ การปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนควรนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเอง ซึ่งตัวคุณป้อเองพร้อมที่จะปรับตัวและตื่นตัวกับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเพื่อที่จะสามารถวางแผนธุรกิจในภายภาคหน้าได้ว่าจะต้องปรับเปลี่ยนไปในทิศทางใดเพื่อที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคได้มากที่สุด

โดยแนวคิดเหล่านี้จะทำให้เราสามารถฝ่าวิกฤตต่างๆไม่ว่าจะเป็นปัญหาหรืออุปสรรคมาได้ จะทำให้คนตัวเล็กสามารถเติบใหญ่ขึ้นได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้คุณป้อเองได้แนะนำสำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่อยากจะลงสนามทำธุรกิจว่า การทำธุรกิจในยุคนี้เรียกได้ว่าเป็นยุค m-commerce ซึ่งเป็นยุคที่โลกเคลื่อนไหวผ่านจอมือถือมากกว่าอยู่บนเดสท็อป ซึ่งการทำธุรกิจผ่านโลกออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ได้ง่ายเนื่องจากมีคู่แข่งจำนวนมาก สิ่งที่เราต้องมีคือความครีเอทีฟ คือ ครีเอทีฟทางด้านสินค้า และ ความครีเอทีฟทางด้านการตลาด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์มาเป็นองค์ประกอบเพื่อที่จะสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของคุณนั่นเอง