บ่ายวันก่อนดิฉันจะไปธุระแถวนนทบุรี ดิฉันใช้เวลาโบกมือเรียกรถ TAXI ริมถนนลาดพร้าว-บางกะปินานมาก ทั้งๆที่มีรถผ่านตลอดและเปิดไฟ
“ว่าง” เอาไว้ แต่ไม่ว่าจะเรียกซักกี่คันก็ได้ยินอยู่แค่สองคำคือ
“รีบส่งรถกับแก๊สหมด” จนเกือบครึ่งชั่วโมงมี TAXI ใจดีชื่อพี่หมาย (ขอสงวนชื่อจริงนามสกุลจริง) ตอบตกลงไปส่งที่ปลายทาง ระหว่างทางจึงได้ขอไขคำตอบกับสิ่งที่คาใจด้วยการสัมภาษณ์พี่แก 5 คำถามนี้
ทำไม TAXI ชอบปฏิเสธผู้โดยสารด้วยการบอกว่ารีบส่งรถ?
ปัจจุบันคิดว่า TAXI ในกรุงเทพน่ามีประมาณ 2 แสนกว่าคัน TAXI ในกรุงเทพส่วนใหญ่จะขับรถเป็นกะ ซึ่งปกติบ่าย 2-3 โมงก็จะไปไหนไกลไม่ได้ เพราะต้องรีบส่งรถตอนบ่าย 4 โมง ส่วนกะกลางคืนก็จะส่งรถตี 4 ถ้าขับไปไหนไกลมากๆกลับมาไม่ทันก็จะโดนปรับ ซึ่ง TAXI ที่มีปัญหาไม่รับคนส่วนใหญ่จะอยู่ในกะกลางวัน
จะส่งรถอยู่แล้ว แล้วเปิดไฟ “ว่าง” ไว้ทำไม?
ก็เผื่อไว้ ว่าอาจจะได้ผู้โดยสารที่เรียกไปทางที่จะไปส่งรถ มันก็จะมีผลพลอยได้อีกซัก 50-60 บาท
แล้วข้ออ้างว่าแก๊สหมดล่ะ?
บางส่วนก็อาจจริง แต่ส่วนใหญ่เป็นข้ออ้าง มุขนี้ใช้มานานมากแล้วครับ ง่ายๆเลยคือคนขับเขาไม่อยากไปนั่นหละ
เคยเรียก TAXI แถวสยาม/เซ็นทรัลเวิร์ล ทำไมไม่รับคนไทยเลย?
คือ TAXI ย่านนั้นส่วนใหญ่จะเป็นสายที่จับเฉพาะลูกค้าต่างชาติเท่านั้น เพราะสามารถกำหนดราคาเหมาได้ อย่างระยะปกติที่กดมิเตอร์ไปราคา 40-50 บาท เขาก็จะให้ผู้โดยสารต่างชาติเหมาไปในราคา 100 บาท ลักษะนี้ของ TAXI แบบนี้เรียกว่าเข้าเส้นพวกเขาแล้วครับ คือคนขับในเมือง เขาจะไม่รับผู้โดยสารที่เรียกไปนอกเมืองหรือชานเมืองเลย หลายครั้งที่ผู้โดยสารเรียกทั้งๆที่เปิดไฟ “ว่าง” แต่กลับไม่จอด เพราะเป้าหมายของพวกเขาจะอยู่ที่ย่านปทุมวัน นานา สุขุมวิท สีลม เท่านั้น และอีกอย่างคือ TAXI กลุ่มนี้จะมีเพื่อนฝูงและสมาคมอยู่แถวๆนั้น เลยเลือกที่จะขับอยู่เฉพาะย่านนั้นเท่านั้น
พี่คิดว่าจะแก้ปัญหา TAXI ไม่รับคนยังไงดี?
เดี๋ยวนี้มันมี UBER, GRAB และมี TAXI สีเขียว/เหลืองที่เป็น TAXI ส่วนบุคคลมากขึ้น ซึ่งเขาจะขับเป็นเวลาและเขาได้ยึดถือการขับ TAXI เป็นอาชีพแล้ว ทำให้TAXI ส่วนบุคคลไม่ค่อยปฏิเสธ ซึ่งผู้โดยสารก็สามารถสังเกตในส่วนนี้ได้ แต่ถ้าจะไปแก้ที่คนนั้นอาจจะยากเพราะมันฝังอยู่ในสายเลือดของเขาไปแล้ว เนื่องจากรถก็ไม่ใช่รถของเขา ทำให้เขาไม่ได้แคร์เพื่อนร่วมอาชีพ ว่ามันจะมีผลกระทบอะไรตามมาบ้าง