“อาลีบาบา” ใช้ blockchain ป้องกันอาหารปลอมแปลง


จีนต้องพบกับปัญหาอาหารปลอม ไม่ว่าจะเป็นซอสถั่วเหลืองลอกเลียนแบบ ข้าวปลอม ไข่ปลอม ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ย่อมส่งผลต่อผู้บริโภคที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ สำหรับเรื่องดังกล่าว อาลีบาบา บริษัทชอปปิ้งออนไลน์ชั้นนำของประเทศ ต้องการต่อสู้กับอาหารลอกเลียนแบบโดยการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า blockchain

แจ๊ค หม่า เจ้าของบริษัทอีคอมเมิร์ซมูลค่า 270 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ออกมาประกาศว่าทางอาลีบาบาจะเริ่มทดลองใช้เทคโนโลยี blockchain โดยระบบจะแยกประเภทด้วยดิจิทัล มีแทร็คการติดตามสินค้าอาหารทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งแนวคิดนี้จะถูกนำไปใช้กับผู้ขายสินค้าบน  Alibaba และ Tmall มาร์เก็ตเพลสที่มีกลุ่มนักชอปปิ้งกว่า 443 ล้านคน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของรายการสินค้า ลดปัญหาสินค้าปลอมออกไป

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี blockchain คือระบบที่ถูกนำไปใช้ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ สองประเทศแหล่งผลิตอาหารยอดนิยม สำหรับลูกค้าชาวจีนของอาลีบาบา

ปัญหาเนื้อวัวปลอมแปลง

Maggie Zhou กรรมการผู้จัดการอาลีบาบาในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ กล่าวว่า เมื่อพิจารณาสภาพแวดล้อม กฎระเบียบที่เป็นแบบอย่างของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ พบว่าสองประเทศดังกล่าวประสบความสำเร็จด้านอาหารและการส่งออกเครื่องดื่ม มันจึงเป็นเรื่องที่ตัดสินใจง่ายมากในการนำเทคโนโลยี blockchain มาใช้

“เราเห็นออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มีการติดตั้งระบบในตลาด เพื่อความสมบูรณ์ ความปลอดภัย และคุณภาพของอาหารทั้งระบบซับพลาย เชน”

เป็นอย่างที่ทราบกันว่าอาลีบาบาถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสิ้นค้าปลอมแปลง และได้มีการดิ้นรนขจัดสินค้าปลอมแปลงเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็น DVD เถื่อนตลอดจนกระเป๋าถือ ซึ่งถูกขายโดยบุคคลที่สาม ทำให้แจ๊ค หม่า ต้องออกมาเรียกร้องให้จีนเข้มงวดกับกฎหมายและบทลงโทษเพื่อต่อต้านการปลอมแปลงสินค้า

“พูดได้ว่าการปลอมแปลงสินค้ามีโทษค่อนข้างต่ำ มันยากที่จะจินตนาการว่าเราสามารถกำจัดสินค้าลอกเลียนแบบเหล่านี้ให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร”

เทคโนโลยี blockchain จะเป็นระบบที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการตรวจสอบ โดยกรณีของอาหาร blockchain จะจัดเก็บข้อมูลดีเอ็นเอของวัวจนไปถึงบรรจุภัณฑ์ในออสเตรเลีย เรียกได้ว่าบันทึกข้อมูลของเนื้อวัวตลอดวงจรชีวิต เพื่อความถูกต้อง

“เมื่ออาหารถูกวางบนชั้นขายสินค้า ผู้บริโภคสามารถใช้โทรศัพท์มอถือสมาร์โฟนสแกน QR บนแพกเกจอาหาร หลังจากนั้นจะได้รับข้อมูลความปลอดภัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหาร รวมถึงรายละเอียดของแพกเกจและต้นกำเนิดอีกด้วย”

เรียบเรียงจาก : techinasia