จับประเด็น “น้ำมันพืช : ไขมันไม่อิ่มตัว” ที่จำเป็นต่อคนทำงาน

นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ SME หรือมนุษย์เงินเดือน ต่างก็ต้องการให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น  ดังนั้นในบทความนี้จะนำสาระประโยชน์จากการบริโภคน้ำมันพืชในปริมาณที่พอเหมาะ  ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย เพราะมีไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายคนเรา มาเล่าสู่กันฟัง

โดยนักวิจัยมีความคิดเห็นตรงกันว่า พืชหลายชนิดมีไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น ดอกคำฝอย ดอกทานตะวัน ข้าวโพด ฝ้าย และน้ำมันถั่วเหลือง ซึ่งทั้งหมดนี้อุดมไปด้วยกรดไลโนเลอิค จะช่วยลดคอเลสเตอรอล เพราะเป็นไขมันไม่อิ่มตัว จะเข้ามาแทนที่หรือช่วยเผาผลาญไขมันอิ่มตัวในอาหารได้ ซึ่งส่วนใหญ่มีแหล่งที่มาจากเนื้อสัตว์

Alice H. Lichtenstein ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์โภชนาการ ผู้อำนวยการและนักวิทยาศาสตร์อาวุโส ห้องปฏิบัติการโภชนาการหัวใจและหลอดเลือด มหาวิทยาลัยทัฟส์ สหรัฐฯ ได้เคยระบุว่า “มีการสนับสนุนให้ใช้น้ำมันพืชแทนไขมันสัตว์”

เคยมีคำถามว่า “แล้วการบริโภคน้ำมันพืช จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้อย่างไร?” สำหรับคำตอบนี้ได้มีการศึกษาเชิงสังเกตการณ์ถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร (แต่ไม่ได้พิสูจน์ถึงสาเหตุและผลกระทบ) เช่น การบริโภคอาหารและการเกิดโรค อย่างการบริโภคกรดไลโนเลอิคจะสัมพันธ์กับความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ และการตอบสนองต่อปริมาณยาที่บริโภค

“การนำน้ำมันพืชที่อุดมไปด้วยกรดไลโนเลอิคมาบริโภค จะช่วยให้หัวใจมีสุขภาพที่ดีขึ้น” เป็นอีกหนึ่งคำยืนยันจาก  Daisy Zamora นักระบาดวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา

ยังมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ SME หรือมนุษย์เงินเดือนอีกว่า ยังมีการวิเคราะห์จากการทดลองแบบสุ่มทางคลินิก พบว่า แม้การใช้น้ำมันพืช (ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว) จะทำให้ไขมันอิ่มตัวในอาหารมีการเปลี่ยนแปลง  และเมื่อบริโภคอาหารชนิดนั้น ๆ เข้าไป จะส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายลดลง แต่ก็ไม่เกี่ยวกับการลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ

ถ้าเราอยากให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากน้ำมันพืช เมื่อจะปรุงอาหาร ต้องสังเกตที่น้ำมันพืชส่จะต้องอุดมไปด้วยกรดไขมันชนิดจำเป็นต่อร่างกาย  โดยเฉพาะกรมไลโนเลอิคและกรดอัลฟาไลโปอิก เป็นกรดที่ร่างกายของคนเราต้องการ แต่ไม่สามารถสร้างโดยตัวเองได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยกรดเหล่านี้

เงื่อนไขหรือข้อจำกัดสำหรับบุคคลที่จะบริโภคก็คือ หญิงที่มีอายุระหว่าง 19-50 ปี ควรบริโภคกรดไลโนเลอิคในปริมาณ 12 กรัมต่อวัน  ในขณะที่ผู้ชายที่มีอายุ 19-50 ปี ควรบริโภคในปริมาณ 17 กรัมต่อวัน และเมื่อทั้งหญิงและชายอายุ 51 ขึ้นไป ควรบริโภคในปริมาณที่ลดน้อยลง

ดังนั้นสรุปว่า นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ SME หรือมนุษย์เงินเดือน จำต้องรู้ถึงคุณค่าของน้ำมันพืช เพราะอาหารเกือบจะทุกมื้อที่บริโภคไปนั้น มักจะมีน้ำมันพืชเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ ก็จะมีประสิทธิภาพในการทำงาน และมีโอกาสขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่เป้าหมายได้

By : ชายเล็ก บดินทร์