สวทน. เปิดเวทีเชื่อมโยงงานวิจัยและนวัตกรรม ยกระดับอุตสาหกรรมอาหาร แบบครบวงจร


สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดงาน “Talent Mobility for Food Innovation 2017” อย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 24 – 25 มีนาคม 2560 โดยมี ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานในวันที่ 24 มีนาคม นี้

ดร.อรรชกา กล่าวว่า การจัดงาน Talent Mobility for Food Innovation 2017 ถือเป็นเรื่องที่ดี  และนับเป็นการยกระดับความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาในมิติใหม่ ที่จะขยายฐานการใช้ประโยชน์จากบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อร่วมกันผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ เติบโตสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ นอกจากนี้การจัดให้มีเวทีพบกันระหว่างนักวิจัยจากภาครัฐกับผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมอาหาร รวมถึงการลงนามความร่วมมือสนับสนุนทุนโครงการวิจัยระหว่าง สวทน. กับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) นั้น เป็นจุดเริ่มที่สำคัญในการส่งเสริมบุคลากรจากภาครัฐและสถาบันอุดมศึกษา ไปช่วยสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคผลิตและบริการอย่างเป็นรูปธรรม

ดร.อรรชกา กล่าวด้วยว่า นโยบายและภารกิจเร่งด่วนประการหนึ่งของรัฐบาลก็คือ การเร่งสร้างนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยให้เพียงพอกับความต้องการของประเทศ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศตามนโยบาย “ประเทศไทย 4.0” กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนเมืองนวัตกรรมอาหาร ตระหนักดีว่า การยกระดับขีดความสามารถในการวิจัยและพัฒนาของผู้ประกอบการนั้นเป็นกลไกสำคัญของการก้าวพ้นประเทศที่ติดกับดักรายได้ปานกลาง โดยเฉพาะผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมอาหารซึ่งเป็นผู้ประกอบการกลุ่มสำคัญของประเทศ จึงได้บูรณาการเมืองนวัตกรรมอาหาร ร่วมกับโครงการทาเลนท์ โมบิลิตี้ และร่วมกับแหล่งทุนสนับสนุนนักวิจัยให้ทำงานร่วมกับภาคเอกชน เพื่อเป็นการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนแบบครบวงจรต่อไป

ด้าน ผศ.ดร.อัครวิทย์ กาญจนโอภาษ รักษาการรองเลขาธิการ สวทน. และซีอีโอเมืองนวัตกรรมอาหาร กล่าวว่า ปัจจัยที่สำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายเมืองนวัตกรรมอาหาร คือ นักวิจัย และกลไกสนับสนุนให้นักวิจัยในภาครัฐและเอกชนได้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ที่เน้นการส่งเสริมและสนับสนุนบริษัทอาหารในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดจนความสามารถในการแข่งขันด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงการเป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ และบริการครบวงจร นอกจากนี้ยังเน้นส่งเสริมการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานด้านมาตรฐานวิเคราะห์ทดสอบและความปลอดภัยด้านอาหาร โดยอาศัยกลไกประชารัฐ เชื่อมโยงกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับหน่วยงานวิจัย เพื่อสร้างนวัตกรรมอาหาร โดยระบบมีความปลอดภัยสูง เพื่อรักษาข้อมูลความลับและการจัดการทรัพย์สินทางปัญญา ตามมาตรฐานสากล ขณะเดียวกันยังส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านการวิจัยพัฒนาจากทั่วโลก มาร่วมวิจัยพัฒนากับบริษัทและหน่วยงานในเมืองนวัตกรรมอาหาร เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านนวัตกรรมอาหารด้วย

“ผู้ประกอบการที่สนใจค้นหานักวิจัยไปต่อยอดในอุตสาหกรรมอาหาร นักวิจัยที่ต้องการนำความรู้ด้านการวิจัยไปพัฒนาให้เป็นรูปธรรม จะได้รับการจุดประกายความคิดภายในงานนี้ นอกจากนี้ เมืองนวัตกรรมอาหารยังได้จัดทำเว็บไซต์ FI-Databank เพื่อเพิ่มโอกาสให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถเข้าถึงงานวิจัยพัฒนาและนวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐานนักวิจัย และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเว็บไซต์ดังกล่าวจะเชื่อมโยงกันระหว่างภาคอุตสาหกรรม การวิจัยในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์จากผลงานวิจัย เพื่อร่วมสนับสนุนให้อุตสาหกรรมอาหารของไทยสามารถแข่งขันได้ และเติบโตอย่างยั่งยืนครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ” ดร.อัครวิทย์ กล่าว

ด้าน ผศ.ดร.พูลศักดิ์ โกษียาภรณ์ รักษาการผู้อำนวยการด้านพัฒนากำลังคนสะเต็ม สวทน. กล่าวเสริมถึงนโยบายส่งเสริมบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม จากมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยภาครัฐ เพื่อเข้าไปขับเคลื่อนและปฏิบัติงานเพิ่มขีดความสามารถในภาคเอกชน หรือ ทาเลนท์ โมบิลิตี้ ว่าสามารถช่วยปลดล็อกปัญหา ทำให้นักวิจัยและนักเรียนทุนมาทำงานในภาคเอกชนโดยสามารถนับอายุงานและการใช้ทุนได้ ทั้งยังสามารถนำผลการปฏิบัติงานในภาคเอกชนไปใช้ในการขอตำแหน่งทางวิชาการได้ตามเกณฑ์การตกลงของต้นสังกัด ซึ่งปัจจุบันมีการเคลื่อนย้ายบุคลากรไปยังองค์กรเอกชนแล้วทั้งสิ้น 568 คน โดยมีภาคเอกชนเข้าร่วมโครงการ 177 บริษัท และมีมหาวิทยาลัยเข้าร่วมแล้วกว่า 21 แห่งทั่วประเทศ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม คณะทำงานโครงการเมืองนวัตกรรมอาหาร
โทรศัพท์ 02160 5432 ต่อ 703 (นิรมล) หรือ 081-7536119 (แพรประพันธ์)
Email: [email protected] / Website: www.sti.or.th / Facebook: www.facebook/STIReform