“เอสเอ็มอีแบงก์” เปิดตัวสินเชื่อใหม่ “SMEs Transfomation Loan” วงเงิน 15,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยพิเศษร้อยละ 3 ต่อปี สนับสนุนเงินทุนแก่เอสเอ็มอีมีนวัตกรรม ดันเข้าอุตสาหกรรมยุค 4.0 คาดผู้ประกอบการได้รับประโยชน์กว่า 3 พันราย เชื่อปล่อยหมดภายใน 6 เดือน สร้างงานกว่า 24,000 คน เงินสะพัดในระบบ ศก.68,700 ลบ.
วันนี้ (7 เมษายน ) นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมเปิดตัว สินเชื่อ SMEs Transformation Loan และ กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ เติมเต็มเงินทุน ติดอาวุธความรู้ ติดปีก SMEs ไทย โดยมี นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.หรือ SME Development Bank) ให้การต้อนรับ พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อร่วมผลักดันผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนวงเงินรวมกว่า 35,000 ล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบช่วยให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้กว่า 9,000 ราย รักษาการจ้างงานได้ไม่น้อยกว่า 72,000 คน สร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ประมาณ 151,140 ล้านบาท โดย ธพว.เป็นแกนหลักในการเติมเต็มเงินทุนและเสริมสร้างองค์ความรู้เพื่อความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ให้ดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่องและประสบความสำเร็จ
ด้านนายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธพว. เปิดเผยว่า ธนาคารฯ เปิดตัวสินเชื่อ “SMEs Transfomation Loan” วงเงิน 15,000 ล้านบาท มุ่งเน้นปล่อยสินเชื่อแก่เอสเอ็มอีที่มีนวัตกรรม รวมถึง เอสเอ็มอีต้องการปรับตัวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 กลุ่มธุรกิจ S-Curve ตามเป้าหมายของรัฐบาล หรือกลุ่มขยายการส่งออกไปต่างประเทศ
สำหรับสินเชื่อดังกล่าว วงเงิน 15,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยปีที่ 1-3 เพียงร้อยละ 3 ต่อปี ตั้งเป้าให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนกว่า 3,000 ราย กำหนดค้ำประกันผ่านบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.).เฉลี่ยต่อราย 5 ล้านบาท คาดว่าปล่อยสินเชื่อหมดในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ก่อให้เกิดการจ้างงานไม่น้อยกว่า 24,000 คน และสร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 68,700 ล้านบาท เป็นกลไกให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัว
กก.ผจก.เอสเอ็มอีแบงก์ เผยด้วยว่า รัฐบาลยังได้มอบหมายให้เตรียมจัดกิจกรรมเพื่อนำเสนอสินเชื่อดังกล่าว เวียนให้ครบทุกภาค รวม 14 จังหวัดภายในเดือนพฤษภาคมนี้ แบ่งเป็นเดือนเมษายน 9 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา ลำปาง นครศรีธรรมราช สงขลา อ.หาดใหญ่ ตรัง เพชรบุรี มุกดาหาร ร้อยเอ็ด และอุดรธานี เดือนพฤษภาคม 5 จังหวัด คือ สกลนคร ลพบุรี นครปฐม พิษณุโลก และฉะเชิงเทรา
นอกจากนี้ ยังมีกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงินกองทุน 20,000 ล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจดทะเบียนรูปแบบนิติบุคคล อัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1 ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ระยะเวลาชำระคืน 7 ปี ไม่ต้องจ่ายคืน 3 ปีแรก ไม่ต้องมีหลักประกัน ให้กู้สูงสุด 10 ล้านบาทต่อราย และกำหนดสัดส่วนร้อยละ 75 ขึ้นไปจะเป็นวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย เพื่อดูแลรายย่อย การขอสินเชื่อจากกองทุนต้องให้คณะกรรมการกลุ่มยุทธศาสตร์จังหวัดเสนอรายชื่อวงเงินเฉลี่ยจังหวัดละ 200-300 ล้านบาท ต้องอยู่ภาคการเกษตร, แปรรูปอาหาร, แหล่งท่องเที่ยว, กลุ่ม START UP และกลุ่มเทคโนโลยี นวัตกรรม เป็นต้น ตามกลุ่มยุทธศาสตร์จังหวัด คาดว่าจะก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบช่วยให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนกว่า 6,000 ราย เกิดการจ้างงานไม่น้อยกว่า48,000 คน และสร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 82,440 ล้านบาท พร้อมอนุมัติเบิกจ่ายเดือนพฤษภาคม 2560 เอสเอ็มอีแบงก์ตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้กับเอสเอ็มอี 75,000 ล้านบาท โดยมียอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ปัจจุบันร้อยละ 17 ใกล้เคียงเป้าหมายร้อยละ 16.6