แนะกลยุทธ์เปลี่ยนแปลงองค์กรสู่ SME 4.0


ดร.ปริญญ์ บุญดีสกุลโชค กรรมการผู้จัดการ บ. ที่ปรึกษา ฟรอนทิส เปิดเผยในรายการตอบโจทย์ SME ว่า บริษัทฟรอนทิส เป็นบริษัทที่จะช่วยองค์กรคิดยุทธศาสตร์หรือกลยุทธ์และการพลิกโฉมองค์กรให้เป็นดิจิทัล โดยยุทธศาสตร์ที่ธุรกิจต้องการคือ ทำอย่างไรให้ธุรกิจเติบโตในยุคที่ตลาดคาดเดาได้ยาก และการทำให้องค์กรนำดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งทุกวันนี้ธุรกิจ SME สามารถเข้าถึงดิจิทัลได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วยต้นทุนที่ไม่สูงเหมือนยุคที่ผ่านมา โดยสำคัญคือ ธุรกิจต้องมี คลาวน์ ในการเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์สร้างยุทธศาสตร์และกลยุทธ์

ทางด้านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้วางแนวทางการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไว้คือทำอย่างไรให้การท่องเที่ยวเป็นดิจิทัล หรือ Digital tourism 4.0 เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวเติบโตในยุคดิจิทัลและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยมุมมอง 2 มุมมอง คือ

1. สร้างประสบการณ์ที่ดีแก่นักท่องเที่ยวทั้งความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยและให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความเป็นวิถีไทย โดยหลายๆชาติก็ได้นำร่องแล้ว เช่น มาเลเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น ดังนั้นไทยต้องรีบปรับตนเองให้อยู่รอด

2. การบริหารจัดการ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวถือว่ามีบทบาทที่หนักมากเพราะต้องทำงานร่วมกับหลายๆหน่วยงาน เช่น การเดินทางที่สะดวกนั้น ต้องร่วมกับกระทรวงการคมนาคม,การเดินทางไปจังหวัดต่างๆ ที่อาจจะให้กระทรวงมหาดไทยดูแล,เข้าชมอุทยาน ก็ต้องให้กรมอุทยานช่วยดูแลนักท่องเที่ยว เป็นต้น

ดังนั้นจึงนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาทำให้ทุกหน่วยงานเห็นภาพเป็นภาพเดียวกัน จึงนำเอาเทคโนโลยี Business Intelligent (BI) มาใช้ ด้วยการนำข้อมูลจำนวนมากมาใช้ อาทิ การดูจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าเขาใหญ่ ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้าชมน้อย ดังนั้น จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์และสร้างกลยุทธ์ด้วยการจัดการขนส่งและพัฒนาการขนส่งที่สะดวกมากขึ้น จากสนามบินหรือโรงแรมที่พักไปสู่เขาใหญ่ หรือแม้กระทั่งการท่องเที่ยวอุทยานต่างๆ เป็นต้น ทั้งนี้ การยกระดับประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวได้วางแผนเรียบร้อยแล้ว แต่อยู่ในขั้นตอนเริ่มปฏิบัติการ ส่วนระบบการบริหารจัดการด้วย Business Intelligent  (BI) ได้เริ่มปฏิบัติมาระยะหนึ่งแล้ว คือโครงการ Tourism Intelligent center เพื่อให้รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและปลัดการท่องเที่ยวสามารถดูข้อมูลขอกนักท่องเที่ยวได้ อาทิ ดูตัวเลขนักท่องเที่ยวบาดเจ็บแบบเรียลไทม์ , เช็คยอดนักท่องเที่ยววันต่อวัน จำนวนเท่าไหร่ จากชาติใดบ้างและสนามบินรองรับเพียงพอหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งเป็นระบบหลังบ้าน จึงทำให้คนไทยอาจจะไม่ทราบ แต่ที่คนไทยเห็นคือการท่องเที่ยวเติบโตเกินเป้า

อีกหนึ่งหน่วยงานที่ดร.ปริญญ์ บุญดีสกุลโชค ได้ร่วมวางยุทธศาสตร์คือ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ที่ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเป็นหน่วยงานที่จะพัฒนาภาครัฐที่เอื้ออำนวยด้านการบริการประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การต่อภาษีรถยนต์ที่มีไดรฟ์ทรูเข้ามาช่วย ของกระทรวงคมนาคม เป็นต้น โดยมีโจทย์คือการทำให้บริการภาครัฐดีขึ้นรวมถึงการบริหารภายในภาครัฐ ซึ่งดร.ปริญญ์ได้มีการรวบรวมข้อมูลทั้งจากประชาชน ภาคธุรกิจ และพนักงานของรัฐ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในการพัฒนาและเรื่องที่ต้องปรับเปลี่ยนและปรับเปลี่ยนอย่างไรใน 150 กรม เช่น บุคลากร ภาวะความเป็นผู้นำ เทคโนโลยีการทำงาน นโยบาย เป็นต้น โดยจะปรับให้ภาครัฐแข่งขันกับต่างประเทศได้ โดยมีแผนที่ชัดแล้วและเริ่มดำเนินการในหลายส่วนแล้ว

อีกบทบาทหนึ่งที่ดร.ปริญญ์ ได้เป็นที่ปรึกษาของ คุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ในการช่วยเหลือกระทรวงพาณิชย์คือ การช่วยเหลือเศรษฐกิจฐานราก ( Local economy) เติบโตได้ด้วยตนเองโดยได้ระดมความคิดที่จะจัดสร้างยุทธศาสตร์การตลาดแก่ชุมชน แบ่งออกเป็น 3 ตลาด คือ

1. ตลาดชุมชน คือให้ชุมชนเข้าถึงสินค้าในราคาที่ไม่แพง ผ่านตลาดชุมชน

2.ตลาดอัตลักษณ์ คือทำอย่างไรให้ตลาดช่วยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เช่น ตลาดอัตลักษณ์ BOROUGH MARKET ที่ London ที่สามารถนำเอาอาหารสด เช่น เนยสด เป็นร้อยๆชนิด ไส้กรอก แยม ผักสด มาจัดจำหน่าย ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

3.ตลาดเฉพาะ เช่น ตลาดทุเรียนโดยเฉพาะ โดยอาจจะประกอบไปด้วย ทุเรียนสด การแปรรูปทุเรียน ขนมปังทุเรียน เป็นต้น หรืออาจจะเป็นตลาดอาหารทะเลแช่แข็ง

โดยตลาดชุมชนนั้นกระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับกองทุนหมู่บ้าน ที่ร่วมกันส่งเสริมร้านค้าชุมชนมากกว่า 19,000 กว่าร้านค้า และมีตลาดชุมชนกว่า 1,300 ตลาด โดยมีโจทย์คือสร้างการเติบโตแก่ 2 ตลาดนี้ โดยเฉพาะร้านค้าชุมชน ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารการจัดการภายในร้านค้าตนเอง ตั้งแต่เรื่องการเงิน สินค้าคงคลัง การเช็คการขนส่ง โดยต่อไปภาครัฐอาจจะมีซอฟแวร์ราคาถูกมอบให้ รวมถึงการสร้างแฟรนไชส์ให้ชุมชนสามารถซื้อไปจำหน่ายต่อด้วยมาตรฐาน นอกจากนี้ จะยังมีการจัดทำบัตรสมาชิกร้านค้าชุมชน ด้วยปัจจุบันนี้กองทุนหมู่บ้านมีสมาชิกอยู่ จำนวน 13 ล้านคน โดยจะจัดทำเป็นระบบสมาชิกในการใช้จ่ายผ่านบัตรสมาชิกและการสะสมแต้ม ส่วนสินค้าในร้านค้าชุมชนได้มีการร่วมมือกับ สสว.ด้วยการสั่งซื้อสินค้า SME จากเว็บไซต์ของสสว. และเชื่อมโยงกับด้านการขนส่งคือไปรษณีย์ไทย นอกจากนี้ ยังมีระบบวิเคราะห์ข้อมูล เช่น สินค้าชิ้นใดขายดีขายไม่ดี สินค้าใดต้องทำการตลาดช่วย โดยปัจจุบันนี้เริ่มในระยะแรกคือการทดลองระบบ