เจาะ! Raw Café ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ มาแรงโตเร็วเมืองท่องเที่ยว


ในช่วงเวลานี้คงไม่มีอาหารอะไรจะมาแรงไปกว่าเทรนด์ ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ อีกแล้ว และในอาหารเพื่อสุขภาพนั้น ก็อาจมีน้อยคนที่จะรู้จักกับ รอว์ฟู้ด ซึ่งถ้าไม่ใช่กลุ่มคนออกกำลังกายหรือสายเฮลตี้จริงๆก็คงไม่แปลกที่จะไม่คุ้นหูมาก่อน แต่ความน่าสนใจคือ…คุณรู้มั้ย? ว่าธุรกิจประเภทนี้กำลังมาแรงสุดๆ โดยเฉพาะในเขตเมืองท่องเที่ยวต่างๆ

ครั้งนี้ Smart SME ได้สัมภาษณ์สุดพิเศษกับ คุณตู๋ นัญชณัฐ เจริญกำแพง เจ้าของร้าน Raw Café จังหวัดภูเก็ต ร้านอาหารสุขภาพที่แตกต่างจากร้านสุขภาพทั่วๆไปคือเน้นอาหารสไตล์ รอว์ฟู้ด ซึ่งผ่านความร้อนไม่เกิน 42 องศา ไม่ใช้กรรมวิธี ต้ม ผัด ทอด นึ่ง หรืออุปกรณ์การปรุงอาหารอื่นๆ ยกเว้นตู้อบที่ขจัดค่าความชื้นออกไป (dehydrator) เท่านั้น ทำให้ลดการสูญเสียเอนไซม์และคุณค่าทางอาหาร ซึ่ง รอว์ฟู้ด ใช้วัตถุดิบที่เป็นออแกนิคทั้งหมด ยิ่งถ้าต้องการให้มันเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ 100% เรายิ่งต้องใช้ของดีที่สุด แต่วัตถุดิบบางชนิดหาได้ยากในภูเก็ต เลยต้องสั่งเข้ามาจากกรุงเทพหรือต่างประเทศ

Raw Café เกิดจากที่คุณแม่มีธุรกิจ ดีท็อกซ์ แอนด์ เวลเนส เซ็นเตอร์ (Detox and Wellness Center) ซึ่งเป็นการดูแลเรื่องสุขภาพอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการสวนลำไส้ การดีทอกซ์สารพิษออกจากร่างกาย เราจึงต้องการสร้างธุรกิจนี้เพื่อมาเชื่อมโยงกันให้ครบวงจรมากขึ้น ซึ่งโอกาสอีกทางคือที่ภูเก็ตยังไม่มีใครทำอาหารรอว์ อาจจะมีแค่อาหารสลัดแบบง่ายๆหรืออาหารเพื่อสุขภาพแบบทั่วๆไป”

อย่างเมนูซูชิ ที่คนไทยส่วนใหญ่มักรู้จักในรูปแบบของข้าว สาหร่าย ปลาดิบ ฯลฯ แต่ของเราจะนำมาดัดแปลงใหม่ โดยประยุกต์ใช้มะม่วงกับมะพร้าวมาทำเป็นแผ่นห่อด้านนอก รสชาติที่ได้ก็จะออกเปรี้ยวอมหวาน โดยด้านในประกอบด้วยอะโวคาโด ถั่ววอลนัท เห็ดหอม พาสลีย์ ต้นหอมและผักสลัด จากนั้นจึงนำเข้าตู้อบ dehydrator พร้อมเสิร์ฟด้วยการโรยงาและสาหร่ายด้านบน เพื่อให้ได้รสชาติความคาวนิดๆเหมือนกับเวลากินซูชิจริงๆ


อีกเมนูคือ green passion smoothie ซึ่งจะทำมาจากใบคะน้า เสาวรส มะม่วงและเสาวรส โดยร้านจะไม่นำน้ำเปล่ามาปั่นกับสมูทตี้ แต่จะใช้น้ำมะพร้าวสดๆจากลูกเข้ามาใช้แทน นอกจากนั้นยังมีเมนูยอดฮิตอื่นๆอีก เช่น สลัด พิซซ่า ช็อกโกแลตชีสเค้ก ซึ่งลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจะได้รับสุขภาพที่ดีกลับไป 100%

ไอเดียการคิดสูตรเมนูใหม่เกิดจากที่คุณแม่ได้พาไปชิมในหลากหลายที่ทั้งในและต่างประเทศ  โดยเฉพาะในอูบุด ที่บาหลี อินโดนีเซีย ซึ่งชอบไปมาก แต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่อร่อยเท่าบ้านเรา อาจเพราะเราชินกับการกินอะไรที่ออกรสออกชาติชัดเจน เราเลยนำอาหารเหล่านั้นมาปรับรสชาติให้เป็นเอกลักษณ์ของ Raw Café โดยเริ่มจากการจ้างเชฟต่างชาติมาสอน ซึ่งก็ยังเป็นรสชาติกลางๆแบบตะวันตกอยู่ หลังจากนั้นเราจึงค่อยๆคิดและพัฒนาปรับปรุงเรื่อยมา จนกลายเป็นความแปลกใหม่สำหรับต่างชาติที่ได้ลิ้มลองและยังถูกปากคนไทยอีกด้วย

ปัจจุบันได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งลูกค้าชาวต่างชาติ และคนไทยที่เป็นกลุ่มคนรักสุขภาพ ส่วนกำไรก็อยู่ในขั้นที่ดีแต่ไม่ได้สูงมากเนื่องจากราคาค่าวัตถุดิบประเภทนี้ค่อนข้างสูง และอีกส่วนคือไม่อยากขายในราคาที่แพงเกินไปจนเข้าถึงยาก ในอนาคตต้องการทำ vegan food (อาหารที่เน้นผักเป็นส่วนประกอบหลัก) ให้มีความหลากหลายกว่าเดิม เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ ซึ่งอาจเพิ่มกรรมวิธีการปรุงมากขึ้น เช่น ต้ม ผัด ทอด นึ่ง ด้วยกระบวนการที่เกิดผลดีต่อสุขภาพ โดยต้องใช้วัตถุดิบที่ดี อย่างการทอดก็อาจต้องเปลี่ยนการใช้น้ำมันพืชมาเป็นน้ำมันอื่นๆ และกรรมวิธีการปรุงก็ต้องให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาเพื่อประโยชน์และสารอาหารให้มากที่สุด