คุณแน่งน้อย เวทยพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยในรายการตอบโจทย์ SME ว่า การดำเนินโครงการของกระทรวงทรวงอุตสาหกรรมต่างๆที่ผ่านมาหรือดำเนินการอยู่ ณ ปัจจุบัน คือต้องการตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็ง (Local economy) ซึ่งโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ที่มีอัตลักษณ์สู่สากล นี้ มี 2 ประเด็นหลักคือ 1.ต้องการมุ่งหวังให้ผลิตภัณฑ์ OTOP 3-5 ดาว ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพมากพอ ต้องการสร้างมูลค่ามากขึ้นผ่านอัตลักษณ์ของ OTOP 2.เปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาบรรจุภัณฑ์ OTOP ที่เข้าร่วมโครงการ ด้วยการดึงอัตลักษณ์พื้นถิ่นให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
โดยกลุ่มเป้าหมายหลักที่ต้องการนำมาพัฒนาคือ 1.ผ้าและเครื่องแต่งกาย 2.ของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก 3.สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร 4.อาหารและเครื่องดื่ม และ 5.เครื่องดื่ม ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนคัดสรรเป็นผู้ผลิตกลุ่ม A B C หรือ 3-5 ดาว จำนวน 300 ราย ที่เริ่มโครงการมาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ซึ่งภายในวันงานมีผู้เข้าร่วมเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ 355 ราย ซึ่งโครงการนี้จะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 210 วัน หรือ 7 เดือน
ซึ่งคุณแน่งน้อย ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เมื่อ 355 รายนี้ ผ่านการฝึกอบรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว ทางกรมจะคัดเลือกรายที่มีการเปลี่ยนแปลงและมีแนวโน้มเติบโตได้จริง จำนวน 50 ราย ได้ร่วมทดลองลงสู่ตลาดในงานมหกรรมใหญ่ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ คือ งานอินดัสตรี เอ็กซ์โป และฮ่องกงเทรด เพื่อให้เป็นช่องทางใหม่แก่ผู้ที่พัฒนาของตนเองได้ประสบความสำเร็จให้ไปสู่สากลตามจุดมุ่งหวังของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคาดหวังไว้ว่า จำนวน 355 ราย จะเป็นต้นแบบหรือจุดประกายแก่ OTOP รายอื่นๆในพื้นที่ และอีก 50 ราย ที่ต้องการให้เป็นไม้งามแก่ OTOP ไทย
คุณธีระพงษ์ สกลรักษ์ อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการฯ ได้เปิดเผยว่า ขั้นตอนในวันแรกนั้น ได้ให้ผู้ประกอบการจดบันทึกความรู้เบื้องต้น และแบ่งกลุ่มผู้ประกอบการจำนวน 355 ราย ตามประเภทที่ตนเองถนัด 3 ด้าน คือ ตราสัญลักษณ์ ออกแบบผลิตภัณฑ์ และ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ โดยจะมีที่ปรึกษา 10 กว่าท่านจะให้ลงรายละเอียดคร่าวๆเกี่ยวกับ 3 ด้านนี้ให้แก่ผู้เข้าร่วม เช่น ผลิตภัณฑ์ดีมากเนื่องจากกลุ่มนี้มีประสบการณ์มาก แต่บรรจุภัณฑ์กลับเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ผู้ประกอบการขายไม่ได้เลย อาจารย์ที่ปรึกษาจะทำการสอบถามปัญหาด้านยอดขาย ที่ขายยากขายช้า วิธีการทำสินค้า แนวคิดที่ยังแฝงอยู่แต่ไม่ได้เอาออกมาใช้ และอาจารย์ที่ปรึกษาจะปรับทัศนคติการทำการค้าแบบเดิมๆ พร้อมทั้งการเปลี่ยนชื่อแบรนด์ เช่น Benjarong (เบญจรงค์) ที่ต่างชาติอาจจะไม่เข้าใจ ก็ต้องปรับชื่อใหม่ตามอัตลักษณ์ ซึ่งที่อาจารย์ปรึกษาจะส่งแบบบรรจุภัณฑ์ให้เป็นทางเลือก 3 แบบ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เลือกใช้หรือจะนำไปผสมผสานก็ได้เช่นกัน เป็นต้น โดยผู้ประกอบการต้องนำแบบนั้นกลับไปทำการบ้านในทุกๆด้านที่อาจารย์ที่ปรึกษาได้พูดคุยและได้ให้คำแนะนำ ซึ่งกลุ่ม 3-5 ดาวนี้ มีจุดแข็งคือ เป็นผู้ที่มีความชำนาญในกิจการของตน โดยเฉพาะกับ 5 ดาว ที่พร้อมไปสู่ตลาดต่างประเทศ
ส่วนปัญหาของกลุ่มนี้คือ สินค้ามีอัตลักษณ์คล้ายคลึงกัน และไม่รู้เรื่องของการทำการตลาด ทำให้มียอดขายที่ไม่มากพอต่อการดำรงชีวิต รวมถึงไม่รู้กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนของตนเองและยังไม่เปลี่ยนแปลงทัศนคติ เช่น ขายไม่ดีและโทษบรรจุภัณฑ์ แต่ที่บ้านมีสติ๊กเกอร์ตราสัญลักษณ์ 20 แบบ เป็นต้น ดังนั้น โครงการนี้จะช่วยชี้จุดเด่นหรือดึงอัตลักษณ์พื้นถิ่นให้ชัดมากขึ้น รวมถึง การดึงอัตลักษณ์ของสินค้าตนเองด้วย
