นิวซีแลนด์จ่อเป็นผู้นำ “รถยนต์ไร้คนขับ”


นิวซีแลนด์ตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไร้คนขับระดับโลก โดยเชิญชวนให้ประเทศต่างๆ มาใช้ถนนในนิวซีแลนด์เป็นสถานที่ในการทดสอบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบไร้คนขับ และคาดหวังว่านิวซีแลนด์จะเปลี่ยนเป็นประเทศที่ใช้แต่รถยนต์ไร้คนขับในอนาคต

นาย Tim Macindoe รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายในงานการประชุมประจำปี International Transport Forum ในเมือง Leipzig เยอรมนีว่า “นิวซีแลนด์ได้เจรจากับโรงงานผลิตรถยนต์ไร้คนขับจากต่างประเทศ โดยระบุถึงศักยภาพของถนนนิวซีแลนด์ที่เอื้อต่อการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์และจำนวนประชากรที่ไม่มาก และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่ไม่มีกฎหมายบังคับให้รถยนต์ต้องมีคนขับ” ซึ่งจะสามารถดึงดูดบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากทั่วโลกนำรถยนต์ไร้คนขับเข้ามาทดสอบในนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ภาครัฐควรกำหนดนโยบายและกฎหมายที่จะเอื้ออำนวยและสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยของรถยนต์ไร้คนขับเพื่อเตรียมความพร้อมในการใช้รถยนต์ไร้คนขับได้อย่างปลอดภัยในอนาคต อีกทั้งการกระตุ้นให้ประชาชน ใช้รถร่วมกัน (Ride-share) จะช่วยเร่งการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับด้วย

ก่อนหน้านี้นิวซีแลนด์ได้มีการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับบริเวณใกล้สนามบิน Christ church โดยบริษัทในท้องถิ่น HMI Technologies เพื่อไม่ให้นิวซีแลนด์ล้าหลังด้านความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีในการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ความพยายามผลักดันให้นิวซีแลนด์กลายเป็นประเทศที่หันมาใช้รถยนต์ไร้คนขับนั้น จะทำให้นิวซีแลนด์กลายเป็นคู่แข่งกับออสเตรเลียไปโดยปริยาย

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นาย Paul Retter ผู้บริหารระดับสูงของ National Transport Commission ของออสเตรเลีย ระบุว่า ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงต่อการทดสอบและเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติในตลาดโลก พร้อมทั้งได้เสนอแผนการทดสอบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติต่อรัฐบาลออสเตรเลียซึ่งกำลังพิจารณาถึงผลกระทบด้านสังคมและความปลอดภัย

นอกจากนิวซีแลนด์และออสเตรเลียแล้ว เดนมาร์กได้หยิบยกกฎหมายอนุญาตให้ทดสอบรถยนต์ไร้คนขับบนถนนปกติได้ ซึ่งเป็นการเปิดไฟเขียวให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไร้คนขับนำรถยนต์ของตนเข้ามาทดสอบบนท้องถนนได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป

รถยนต์ไร้คนขับจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง กระบวนการในภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะในสาขาการขนส่ง เหมืองแร่และการดูแลสุขภาพ ซึ่งจะลดความต้องการคนขับรถลงอย่างมาก แม้ว่าจะต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกระยะหนึ่งแต่เป็นแนวโน้มที่น่าจับมองเป็นอย่างยิ่ง

Credit image | thezebra.com