“ในยุคของ Thailand 4.0 และ Creative Economy การสร้างความแตกต่างให้ธุรกิจถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง” นั่นเพราะความคิดสร้างสรรค์สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ SMEs จนเกิดเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนในอนาคต บวกกับผู้บริโภคยุคปัจจุบันต้องการซื้อสินค้าที่มี Value และคุณภาพกันมากขึ้น
“ความสร้างสรรค์ยังเป็นตัวแปรหลักที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ” ต่างจากอดีตที่หากต้องการทำธุรกิจอย่างมั่นคงมักจะมีเรื่องเงินเป็นตัวแปรอันดับหนึ่งเสมอ ซึ่งนอกจาก SMEs ต้องสร้างสรรค์ในด้านสินค้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แปลกใหม่แล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการเปลี่ยนระบบความคิดหรือวิธีการผลิตสินค้าให้มีความสร้างสรรค์แต่ยังคงผลลัพธ์เท่าเดิมหรือดีกว่า (Productivity Management) อาจทำได้ด้วยการประยุกต์ใช้นวัตกรรมเข้ามาผสมผสาน ทั้งนี้การทำธุรกิจที่มุ่งเน้นความเที่ยงธรรมเสมอภาค, ไม่ละเลยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง (Equity and Inclusiveness) เช่น เด็ก คนชรา ผู้ด้อยโอกาส หรือการทำธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ยังถือเป็นการส่งมอบ, แลกเปลี่ยนโอกาสซึ่งกันและกัน ก่อให้เกิดความยั่งยืนทางธุรกิจ
การจะหาคุณค่าของความแตกต่างให้เจอ SMEs ต้องเป็นคนช่างคิด ช่างสังเกต ช่างตั้งคำถามถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มองหาสิ่งที่สามารถเป็นไปได้จากความต่างที่คนอื่นยังไม่เคยคิดค้นทำมัน หรือทำในสิ่งเดิมให้ดีขึ้นและแตกต่างจากที่เคยมีมา ซึ่งครั้งนี้ Smart SME จะพาทุกท่านไปศึกษาตัวอย่างไอเดียการทำธุรกิจสุดแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ ของคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ
แมลงทอดไฮโซ : แตกต่างด้วยวัตถุดิบที่ยังไม่มีใครคิดลงมือทำ

วันหนึ่งลูกน้องวิ่งไปซื้อแมลงทอดแล้วเอามาแบ่งให้เรากิน ขณะเดียวกันลูกน้องก็บ่นออกมาว่า “เนี่ยหนูชอบมากเลย แต่หากินยากมาก” เลยทำให้คิดต่อว่าจะสามารถต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวกับแมลงได้มั้ย? แล้วถ้าทำจะทำรูปแบบไหน? จะใส่ซองเพื่อให้กระจายได้ง่ายเข้าถึงได้ง่ายดีรึปล่าว? รสชาติจะเป็นรสอะไรบ้าง? ความคิดสร้างสรรค์คืออะไร? เพราะเราต้องหาความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ ถ้าซ้ำคนอื่นก็อาจแข่งไม่ได้เนื่องจากทุนไม่เยอะ
แหลมเกต : แตกต่างด้วยงานบริการและไวรัลสุดครีเอท

โปรดัคของ “แหลมเกต” มีความอร่อย, คุ้มค่าและร้านซีฟู้ดบุฟเฟ่ต์ยังมีไม่มาก ถ้าเทียบกับร้านบุฟเฟต์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น ซูชิ ชาบูหรือปิ้งย่างที่มีเกลื่อนตลาด เป็นร้านอาหารทะเลที่มีโปรดัคหลากหลาย พิเศษ คุ้มค่า เช่นหอยนางรมตัวใหญ่ที่บางร้านขายตัวละ 80 บาท แต่ที่นั่นสามารถกินได้คุ้มแบบเป็นบุฟเฟต์ ส่วนทางด้านการตลาดมีหลายจุดที่ดี แต่ในแง่ของออนไลน์คือ ใช้ influencer ได้เจ๋ง, ทำ media ออกมาได้ดีเยี่ยมและสร้าง storytelling น่าสนใจ
TJ Maxx : แตกต่างด้วยจุดยืนและเทคนิควิธีขาย

สำหรับธุรกิจค้าปลีกในสหรัฐฯถือว่าหายากมากที่ร้านค้าจะไม่สนใจกระแสออนไลน์ แต่นั่นเพราะบริษัทฯของพวกเขาอยู่บนพื้นฐานของ “ประสบการณ์ค้าปลีกในชีวิตจริงของผู้บริโภค” พวกเขาบริหารจัดการสินค้าในสต๊อกให้เปลี่ยนไปอย่างสม่ำเสมอ เมื่อลูกค้าไปที่ร้านแต่ละครั้งสินค้าจะพบสินค้าที่ไม่เหมือนเดิม ทำให้ผู้เกิดความรู้สึกเหมือนการผจญภัย แม้ว่าจะไม่สามารถหาซื้อสินค้าได้แต่ก็ยังได้รับความสนุกในการค้นหาสินค้ำ และคอนเซ็ปท์ที่ว่า “ลูกค้าจะสามารถค้นพบสินค้ำดีๆในราคาถูก” ก็คือสิ่งที่ดึงดูดผู้ซื้อให้เข้ามาในร้าน
Café Amazon : แตกต่างด้วย Value และการตลาดที่ตอบโจทย์

การที่ Café Amazon สามารถแข่งขันในตลาดกัมพูชาได้จนประสบผลสำเร็จ ปัจจัยสำคัญมาจากกลยุทธ์การตลาดที่ดีและแตกต่างของ Amazon ทั้งในด้านราคาที่ถูกและปริมาณที่ได้มากกว่าคู่แข่ง ทำให้คนรายได้น้อยสามารถซื้อกินได้ ทำเลที่ตั้งที่สะดวก การจัดร้านที่ตกแต่งและออกแบบมาในรูปแบบที่เหมาะสำหรับการให้บริการแบบ Take away มากกว่าการนั่งกินในร้าน เพราะ Amazon เน้นไปกลุ่มพนักงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา คนที่เดินทางไกล และกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ของกัมพูชา ซึ่งแตกต่างจากกาแฟแบรนด์ดังๆ
Dry Clean Only : แตกต่างด้วยการเลือกใช้วัสดุกับงานดีไซด์ที่พอดี

ความแตกต่างมันมาจากที่เราเป็นคนคิดไม่เหมือนคนอื่น คิดแปลก “ถ้าอยากทำแฟชั่นก็ไม่ได้อยากทำเหมือนคนอื่น ที่ต้องเริ่มลงทุนจากการไปซื้อผ้าสำเร็จรูปที่สำเพ็งหรือที่ตลาดผ้า” แล้วค่อยเอามาทำให้เป็นแฟชั่น เราอยากสร้างมันให้เป็นแฟชั่นในแบบฉบับของเรา จึงเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นวินเทจหรือเสื้อมือสองมา reuse และ remade มันเลยค่อนข้างแตกต่างมาก ณ เวลานั้น
คนครัว : แตกต่างด้วยความเข้าใจพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย

เนื่องจากเป็นคนชอบทำอาหารและมักจะสอนเพื่อนชาวต่างชาติทำอาหารไทยอยู่บ่อยครั้ง จนเพื่อนๆรู้สึกติดใจและมักนำสูตรอาหาร วิธีการปรุงไปทำกินกันเอง นอกจากนั้น เพื่อนหลายคนยังนำเมนูที่เรียนไปสร้างสรรค์ในโอกาสต่างๆให้พิเศษยิ่งขึ้น จึงเกิดคำถามว่า “ถ้าไม่มีเรา เพื่อนๆจะปรุงอาหารไทยเองหรือหาวัตถุดิบมาจากไหน?” นี่จึงเป็นที่มาของไอเดียกล่องอาหารพร้อมปรุง เพื่อให้ชาวเยอรมันที่ชื่นชอบอาหารไทยสามารถทำรับประทานเองได้อย่างสะดวกขึ้น
คางกุ้งโอคุสโน่ : แตกต่างด้วยสิ่งไร้ค่าสู่มูลค่าทางโภชนาการ

“วันหนึ่งคุณแม่ได้ทำอาหารเมนูกุ้ง จึงลองตักหัวกุ้งมาลองเเคะเล่นดู และพบว่าส่วนใต้หัวกุ้งที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยกิน มันน่าจะเอามาทำอะไรได้ เลยคุยกับน้องชายว่าเราลองเอามาแปรรูปกันมั้ย” อีกส่วนคือกุ้งไทยมีปริมาณส่งออกมากถึง 1 ใน 5 ของเอเชีย ทำให้เรามีเปลือกกุ้งเหลือเยอะมาก เราเป็นบริษัทแรกของประเทศที่ใช้คางกุ้งมาเป็นวัตถุดิบหลักและแปรรูปเป็นอาหาร ในตอนแรกส่วนนี้ของกุ้งไม่มีชื่อเรียกมาก่อน เราจึงไม่รู้จะเรียกว่าอะไร เลยตั้งคำว่า “คางกุ้ง” ขึ้นมาเอง เนื่องจากมันเป็นส่วนที่อยู่ใต้หัวของกุ้ง นั่นเพราะไอเดียมันเกิดจากที่เราอยากแตกต่างและไม่เหมือนคนอื่น