ฟรุ๊ต คิง ผู้นำตลาดผลไม้ไทยฟรีซดรายด์ เตรียมรุกตลาดในประเทศเต็มตัว ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ หลังประสบความสำเร็จจากการส่งออกมากว่า 25 ปี ชูจุดเด่นด้านคุณภาพและกระบวนการผลิต พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่รองรับการขยายฐานผู้บริโภค
มร.หลิว ปินเออ ประธานและซีอีโอ บริษัท ซันไชน์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า บริษัทถือเป็นผู้นำด้านผลไม้ไทยอบกรอบและเป็นผู้ผลิตรายแรกๆ ที่เน้นเรื่องคุณภาพตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ กรรมวิธีการผลิตด้วยการริเริ่มนำนวัตกรรมอบกรอบแบบเยือกแข็งสุญญากาศ หรือ Vacuum Freeze Dried มาใช้ในเมืองไทย ตลอดจนการควบคุมมาตรฐานของโรงงาน โดยกลุ่มเป้าหมายของ ฟรุ๊ต คิง (Fruit King) คือกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบความหลากหลาย ชอบแสวงหาอะไรใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำแบบเดิม กลุ่มครอบครัวที่หัดให้บุตรหลานทานผลไม้ เพราะฟรุ๊ต คิง สามารถนำไปผสมนมทานได้เหมือนซีเรียล
“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น รู้จักเลือกทาน เลือกใช้ ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ไปเน้นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับตัวเองและครอบครัว ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ ฟรุ๊ต คิง สามารถตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้เป็นอย่างดีด้วยจุดเด่นของกระบวนการผลิตที่ทำให้แห้งเยือกแข็งแบบสุญญากาศ โดยจะนำผลไม้ไปทำให้แห้งด้วยการแช่เยือกแข็ง น้ำในผลไม้จะถูกเปลี่ยนเป็นผลึกน้ำแข็งก่อนแล้วจึงลดความดันเพื่อให้ผลึกน้ำแข็งระเหิด หลังจากนั้นจะเหลือน้ำคงอยู่เพียง 2% เท่านั้น วิธีนี้จะช่วยรักษาคุณภาพอาหาร รสชาติดั้งเดิม วิตามิน และคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้อย่างดีที่สุด อีกทั้งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทปราศจากสารปรุงแต่ง สีผสมอาหาร วัตถุกันเสีย และไม่แต่งกลิ่นสังเคราะห์ แม้แต่รสชาติหวานที่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นความหวานตามธรรมชาติไม่ได้มีการเสริมด้วยน้ำตาลแต่อย่างใด จึงมั่นใจว่าจะสามารถครองใจผู้บริโภคที่รักสุขภาพได้ไม่ยากนัก
ปัจจุบันนี้ ฟรุ๊ต คิง มีผลิตภัณฑ์ผลไม้ไทยอบกรอบที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น ทุเรียน มังคุด เงาะ มะม่วง ขนุน กล้วย มะพร้าว และสับปะรด วางจำหน่ายอยู่บนชั้นวางในซูเปอร์มาเก็ตและศูนย์การค้าชั้นนำอยู่แล้ว แต่ผู้บริโภคในไทยอาจจะยังไม่คุ้นเคย หรือไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์เรามีจุดเด่นอย่างไร ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป บริษัทจะสร้างการรับรู้กับผู้บริโภคในประเทศเพิ่มมากขึ้น และนอกจากไลน์ผลไม้ไทยอบกรอบเดิมที่มีอยู่เดิม ขณะนี้ยังมีผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ที่เปิดตัวมาเพื่อขยายฐานผู้บริโภคที่ชอบความหลากหลายเพิ่มขึ้น คือผลไม้ไทยอบกรอบในรูปแบบสอดไส้ 2 ชนิดคือ เงาะสอดไส้มะม่วง และเงาะสอดไส้สับปะรด จะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวตามชนิดของผลไม้ ทานได้ไม่เบื่อ ไม่ต้องทานแค่ผลไม้ชนิดเดียว”
ตลอดระยะเวลา 25 ปีนั้น ฟรุ๊ต คิง เน้นการส่งออกเป็นหลัก เพราะผลไม้ไทยเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมมากจากต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นแบบสด แช่แข็ง หรือแปรรูป โดยเฉพาะทุเรียนที่ถือเป็นราชาแห่งผลไม้ไทย โดยสัดส่วนการจัดจำหน่ายแบ่งออกเป็นในประเทศ 38% ซึ่งจับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเที่ยวเมืองไทย ในต่างประเทศ 62% ได้แก่ แคนาดา สหรัฐอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย รัสเซีย เกาหลีใต้ จีนและไต้หวันที่มีบริษัทสาขาสำหรับการจัดจำหน่ายโดยเฉพาะ กลุ่มประเทศในเอเชีย และในเออีซี (AEC) ซึ่งขณะนี้กำลังจะขยายตลาดไปยังเวียดนามและกัมพูชาเพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี สัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่ายแบ่งเป็นผลไม้แช่แข็ง 28% และอีก 72% เป็นผลไม้ไทย อบกรอบ / บดผงสำหรับนำไปเป็นวัตถุดิบหรือส่วนผสมของเวชสำอาง
“บริษัทได้เตรียมสร้างการรับรู้ Brand ผ่านช่องทางต่างๆ โดยเน้นบีโลว์ เดอะ ไลน์ (Below the line) และ Above the line ที่จะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์ การเข้าร่วมงานแสดงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับอาหารต่างๆ การใช้ช่องทางโซเชียล มีเดีย หรือการโร้ดโชว์ไปตามออฟฟิซ บิลดิ้ง (Office Building) ในอนาคต ทั้งหมดนี้เป็นแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังที่เน้นการสร้างการรับรู้แบรนด์ ฟรุ๊ต คิง ต่อกลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทย ซึ่งมีช่องทางจัดจำหน่ายที่ ร้าน Fruit King โครงการโชว์ ดีซี (SHOW DC) พระราม 9 ศูนย์การค้าชั้นนำ ซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ และคิง พาวเวอร์ อีกทั้งกำลังจะขยายสู่ร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง โดยในปี 2560 บริษัทตั้งเป้ายอดจำหน่ายประมาณ 660 ล้านบาท” มร.หลิว กล่าวโดยสรุป