ดร.อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) เผยในรายการตอบโจทย์ SME ว่า สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) ก่อตั้งมาแล้ว 33 ปี มีสมาชิกอยู่ 800 กว่ารายที่เป็นนิติบุคคล โดยสมาชิกนั้นจะมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวทั่วไปจากกรมการท่องเที่ยว คือ ธุรกิจที่นำคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศได้ (เอาท์บาว) ด้วยการวางเงินค้ำประกัน 2 แสนบาท ซึ่งเป็นคุณสมบัติเบื้องต้นของสมาชิก นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจนำเที่ยวด้วยการพานักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย (อินบาว) จะวางเงิน 1 แสนบาท และหากเป็นธุรกิจนำเที่ยวแบบท่องเที่ยวภายในประเทศ วางเงิน 5 หมื่นบาท และสุดท้ายธุรกิจนำเที่ยวเฉพาะในพื้นที่ วางเงิน 1 หมื่นบาท โดย 4 ประเภทธุรกิจนำเที่ยวนี้จะมีเลขในการได้รับอนุญาตจากกรมการท่องเที่ยวและมีวันกำหนดหมดอายุ ดังนั้น นักท่องเที่ยวจะสามารถเช็คความน่าเชื่อถือจากกรมการท่องเที่ยวผ่านเว็บไซต์ได้เลย ส่วนการที่ผู้ประกอบการต้องวางเงินค้ำประกันนั้นก็เพื่อเป็นการคุ้มครองนักท่องเที่ยว หากผู้ประกอบการทำผิดเงื่อนไขต่อนักท่องเที่ยวนั่นเอง
นอกจากนี้ กรณีที่บริษัทนำเที่ยวที่นำคนไทยไปท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะกับประเทศที่ฟรีวีซ่าให้คนไทยหลายๆวัน บริษัทมีอำนาจในการเลือกลูกทัวร์ โดยจะมี 2 แบบ คือ 1.ทัวร์หน้าร้าน คือนำครอบครัวหลายๆครอบครัวมารวมกัน โดยบริษัททัวร์จะมีความเสี่ยงบ้าง เนื่องจากไม่ทราบว่าบางครอบครัวอาจจะนำบุคคลอื่นมาร่วมทัวร์ด้วย ซึ่งทางบริษัทจะดูทั้งการพูดการจา บุคลิกภาพ แต่ถ้าคนใดที่ดูแล้วสุ่มเสี่ยงหรือน่าสงสัยว่ากระโดดร่มแน่ๆ ก็จะใช้วิธีปฏิเสธเพื่อลดผลกระทบกับธุรกิจและอาชีพนำทัวร์ หรืออาจจะให้บุคคลนั้นวางเงินมัดจำไว้ก่อนการเดินทาง หรือหากมองแล้วว่ามีความเสี่ยงสูง ทางบริษัทจะทำการปฏิเสธกับลูกทัวร์ และ 2.เหมาเป็นองค์กรหรือบริษัท ซึ่งกรณีนี้บริษัททัวร์สามารถเซ็นการันตีได้เลย เนื่องจากได้รับการการันตีจากองค์กรผู้ว่าจ้างแล้ว และเมื่อเดินทางถึงประเทศเป้าหมายแล้ว ตม.หรือตรวจคนเข้าเมืองประเทศนั้นๆ จะทำหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งตามความรู้สึกของเจ้าหน้าที่เช่นเดียวกับที่บริษัทนำเที่ยวทำ
ทั้งนี้ ดร.อดิษฐ์ยังได้แนะนำสำหรับลูกทัวร์และผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวเอง เพื่อให้ผ่าน ตม. สำหรับประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่าและเตรียมตัวเองอย่างไร คือ 1.ตั๋วเครื่องบินขากลับ 2.หลักฐานทางการเงิน เช่น การพกเงินสดหรือบัตรเครดิต 3.รายการหรือแผนการเดินทางท่องเที่ยวที่ชัดเจน 4.ใบรับรองที่พักจากโรงแรมต้องชัดเจน 5.หลักฐานการทำงานในประเทศไทย และประเด็นสุดท้าย คือ ต้องแต่งตัวให้สุภาพ เนื่องจากสถิติเกาหลีพบว่า คนไทยส่วนมากที่ติด ตม.นั้นเกิดจากการแต่งตัวที่ไม่เหมาะสมหรือยังไม่สุภาพมากพอ ส่วนประเทศที่ต้องใช้วีซ่า ลักษณะคล้ายกับประเทศฟรีวีซ่า แต่ต้องเพิ่มเรื่องประกันสุขภาพระหว่างเดือนทางและควรมีบัตรเครดิต นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันตนเองในการเดินทางไปยังต่างประเทศ ให้ถ่ายรูปที่เป็นเอกสารสำคัญทั้งหมดใส่ไว้ในEmailส่วนตัวของตนเอง เพื่อป้องกันในกรณีที่เอกสารหายระหว่างอยู่ต่างประเทศ
ประเด็นสำคัญที่ภาครัฐต้องการขับเคลื่อนโดยเฉพาะการทำการค้าให้ถูกต้องตามกฎหมาย คือ หากเป็นบริษัทนำเที่ยวนั้น ต้องจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์คือกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และนำเอกสารทั้งหมดที่ได้รับจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าไปยังกรมการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการขึ้นทะเบียนบริษัทนำเที่ยวและต้องเตรียมแบงก์การันตีแก่กรมการท่องเที่ยวด้วย และล่าสุดนี้
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะมีการปรับวงเงินการค้ำประกัน 4 ประเภทธุรกิจข้างต้น เนื่องจากยอดวงเงินค้ำประกัน ณ ปัจจุบัน คือวงเงินเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาถูกจัดตั้งขึ้น บวกกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันก็เปลี่ยนไปด้วย จึงต้องมีการปรับเพิ่มวงเงินแต่ละประเภทคือ 1.บริษัททัวร์เส้นทางต่างประเทศ (เอาต์บาวด์) จากหลักประกัน 2 แสนบาท เป็น 5 แสนบาท 2.บริษัทนำเที่ยวจากต่างประเทศ คือรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาภายในประเทศ จากหลักประกัน 100,000 บาท เปลี่ยนเป็น 200,000 บาท 3.บริษัทที่นำเที่ยวภายในราชอาณาจักร จากหลักประกัน 50,000 บาท เพิ่มเป็น 100,000 บาท และ4.ประเภทเฉพาะพื้นที่ สามารถนำเที่ยวได้ภายในจังหวัดที่จดทะเบียน และจังหวัดที่มีเขตติดต่อกัน จากหลักประกัน 10,000 บาท เปลี่ยนเป็น 50,000 บาท
