“สมคิด” ปลุกบิ๊กเอกชนอุ้มเอสเอ็มอี ชี้หากทุกฝ่ายร่วมมือ ศก.ไทยจะพลิกโฉมใน 4 ปี


“สมคิด” ปลุกความเชื่อมั่น  เผยพื้นฐาน ศก.ไทยยังแข็งแกร่ง ส่งออกกลับมาขยายตัว  ฝากเอกชนรายใหญ่เร่งช่วยสนับสนุนเอสเอ็มอีให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น  ระบุหากทุกฝ่ายร่วมมืออีก 3-4 ปี โครงสร้าง ศก.ประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงสู่ความแข็งแกร่ง

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานพิธีมอบรางวัลเกียรติยศ “Money & Banking Awards 2017” ว่า  จากที่ได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในช่วงที่ผ่านมา  เห็นว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยเข้มแข็งมากเมื่อเทียบกับช่วงประสบปัญหาเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี พ.ศ.2540 โดยเฉพาะการส่งออกกลับมาขยายตัวอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งการส่งออกมาจากภาคเอกชนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) 73 แห่ง มีสัดส่วนร้อยละ  63 ของการส่งออกทั้งหมดนับว่าเป็นรายใหญ่ที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจโดยรวม

รองนายกฯ กล่าวว่า  รัฐบาลต้องการดึงเอกชนทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ สนับสนุนเอสเอ็มอีนับแสนรายให้เข้มแข็ง เพราะเงินบาทแข็งค่าเป็นเวลานานเอกชนรายใหญ่ยังพอรับมือได้ แต่เอสเอ็มอีไทยจะได้รับผลกระทบจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เนื่องจากเอสเอ็มอีไม่มีเทคโนโลยี ไม่มีความสามารถในการแข่งขัน ดังนั้น  เอสเอ็มอีจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย

ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งพัฒนาการท่องเที่ยวท้องถิ่น การยกระดับรายย่อย การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) หากทุกฝ่ายร่วมมืออีก 3-4 ปี โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างอนาคตของประเทศ ขณะที่เอกชนรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นซีพี บมจ.ปตท. บ้านปู ออกไปทำตลาดในตลาดต่างประเทศได้แล้ว  เหลือเพียงเอสเอ็มอีต้องสร้างนักรบทางเศรษฐกิจพันธุ์ใหม่เพิ่มอีกจำนวนมาก เพื่อจะเสริมพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศไทยในเข้มแข็งทั้งระบบ