28 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซท์ท่องเที่ยวของจีน
Mafengwo ร่วมมือกับ UnionPay Smart ได้เผยแพร่
“รายงานการท่องเที่ยวโลก 2017 หมวดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีน” โดยระบุว่า เนื่องจากมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการซื้อขาย ส่งผลให้การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนๆที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย โดยนักท่องเที่ยวจีนมีการใช้จ่ายที่สมเหตุผลมากขึ้น
การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนปีนี้มีความรอบคอบมากขึ้น โดยช่วงมกราคมถึงเมษายนปี 2017 มูลค่าการใช้จ่ายภายในประเทศของนักท่องเที่ยวจีนสูงถึง 1.38 แสนล้านหยวนและมีมูลค่าการใช้จ่ายในต่างประเทศสูงถึง 2.78 หมื่นล้านหยวน ซึ่งหดตัวจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วถึง 41.5% และ 37.2% ตามลำดับ โดยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมซื้อนมผงสำหรับเด็ก เครื่องใช้ไฟฟ้าและสุขภัณฑ์กลับประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันพฤติกรรมการบริโภคเช่นนี้ ยังไม่ค่อยได้เห็นมากนัก แต่เดิม ผู้บริโภควัยกลางคนและสูงอายุเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ผลักดันการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ในปัจจุบัน ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังการบริโภคหลักจึงกลายมาเป็นคนรุ่นใหม่ และลักษณะการบริโภคของคนรุ่นใหม่ก็ได้นำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ตลาดผู้บริโภค นี่จึงเป็นอีกสาเหตุที่ส่งผลให้การใช้จ่ายรวมของนักท่องเที่ยวจีนลดลง
Mafengwo ระบุว่า 68% ของผู้บริโภครุ่นใหม่จะมีการศึกษาขอมูลของสินค้าก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อ นอกจากนี้ 32% ของผู้บริโภครุ่นใหม่ ยังมีการเช็คราคาของสินค้าทางออนไลน์ก่อนการซื้อ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว การเติบโตของ E-commerce ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายท่องเที่ยว เช่น การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนในญี่ปุ่นได้ลดลงติดต่อกันมาแล้ว 5 ไตรมาส เนื่องจากผู้บริโภคจีนสามารถสั่งซื้อสินคาญี่ปุ่นได้บน E-commerce
จากการวิเคราะห์ความแตกต่างของพฤติกรรมการใช้จ่ายระหว่างกลุ่มผู้บริโภค ในภาพรวมระบุว่านักท่องเที่ยวหญิงจะมีสัดส่วนการใช้จ่ายที่สูงกว่า แต่การใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวของนักท่องเที่ยวชายกลับสูงเป็นสองเท่าของนักท่องเที่ยวหญิง ซึ่งพฤติกรรมการใช้จ่ายนี้จะ เห็นได้จากการใช้จ่ายในประเทศ ถึงแม้นักท่องเที่ยวหญิงมีอัตราการใช้จ่ายคิดเป็น 61.7% ของการใช้จ่ายรวม แต่ในด้านของมูลค่าการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวของนักท่องเที่ยวหญิงก็ยังมีมูลค่าไม่ถึง 50% ของการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวชาย และเมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างทางพฤติกรรมระหว่างการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาย-หญิง นักท่องเที่ยวหญิงจะมีการศึกษาราคาและรายละเอียดข้อมูลก่อนการซื้อ แต่ในความเป็นจริงนักท่องเที่ยวหญิงกลับตัดสินใจจากการใช้อารมณ์ความรู้สึกมากกว่า ซึ่งตรงข้ามกับนักท่องเที่ยวชายที่ จะไม่เปรียบเทียบราคา แต่เมื่อต้องซื้อจริงๆแล้วพวกเขาจะใช้จ่ายอย่างระมัดระวังและสมเหตุสมผลเอามากๆ
จากการวิเคราะห์ความแตกต่างด้านพฤติกรรมการใช้จ่ายระหว่างเมืองต่างๆ พบว่านักท่องเที่ยวของเมือง Tier1 เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เซินเจิ้น ยังเป็นกำลังสำคัญในการใช้จ่ายในต่างประเทศ โดยเฉพาะชาวเซี่ยงไฮ้ และหากเรียงลำดับจำนวนผู้บริโภคในเมืองต่างๆ นักท่องเที่ยวจากเซี่ยงไฮ้ จะใช้จ่ายสูงเป็นอันดับหนึ่งในแหล่งช็อปปิ้งมอลล์ แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น คือกำลังซื้อเฉลี่ยของผู้บริโภคเมือง Tier2 ได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่าเมือง Tier1 เนื่องจากมีค่าครองชีพที่ต่ำกว่า ทำให้มีเงินใช้สอยสูงกว่า ดังนั้นกลุ่มผู้บริโภคระดับสูงในเมือง Tier2 จึงเป็นผู้บริโภคที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเป็นหลัก
จากข้อมูลการใช้จ่ายในต่างประเทศ มูลค่าการใช้จ่ายต่อหัวในสามมณฑลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (เหลียวหนิ่ง, จี๋หลิน, เฮย์หลงเจียง) และมณฑลเจียงซูและเจ้อเจียง ยังจัดอยู่ในอันดับที่มีมูลค่าและกำลังซื้อสูงที่สุด โดยคิดเป็น 9 ใน 10 เมืองที่มีการใช้จ่ายต่อหัวสูงสุด ซึ่งไม่มีเมือง Tier1 ติดอยู่ใน 10 อันดับนี้แม้แต่เมืองเดียว นอกจากนี้นักท่องเที่ยวคุนหมิงยังจัดเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายในด้านอาหารและที่พักเฉลี่ยต่อหัว อยู่ในอันดับหนึ่งและสองตามลำดับ
จากการวิเคราะห์ข้อมูลการท่องเที่ยวโลก พบว่าแหล่งท่องเที่ยวในประเทศจีนที่ได้ชาวจีนนิยมไปมากที่สุด ได้แก่ ซานย่าและลี่เจียง โดยเป็นเมืองที่มีการใช้จ่ายสูงที่สุดเฉลี่ยต่อหัวมากถึง 4,821 หยวนและ 4,464 หยวนตามลำดับ ส่วนในต่างประเทศอย่าง ลอส แอนเจลีส, ซิดนีย์และโตเกียว ก็ถือเป็นเมืองที่มีค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนเฉลี่ยต่อหัวสูงที่สุด โดยมีมูลค่าสูงถึง 21,020 หยวน 18,932 หยวน และ 12,040 หยวน ตามลำดับ โดยโรงแรมห้าดาวในลอส แอนเจลีส มีราคาเฉลี่ยสูงที่สุดอยู่ที่ 2,637 หยวน ส่วนราคาเฉลี่ยของโรงแรมที่ต่ำสุดคือกรุงเทพฯมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 773 หยวน และเมื่อเปรียบเทียบราคาโรงแรมสามดาวในโตเกียว, โอซากา, ลอสแอนเจลีส และซิดนีย์ จะเท่าเทียบเท่ากับโรงแรมห้าดาวในกรุงเทพฯ
จากภาพรวมนี้จึงสรุปได้ว่าผู้บริโภคจีนในวันนี้มีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น พฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยจึงค่อยๆลดเลือนไป แต่เพราะที่รายได้ต่อหัวของประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังซื้อโดยรวมของผู้บริโภคจีนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และผู้บริโภคจีนก็จะมีความระมัดระวังและใช้เหตุผลในการตัดสินใจซื้อมากขึ้นเช่นเดียวกัน