ยกทัพเปิด “คลินิกเอสเอ็มอีสัญจร” จ.กระบี่ เร่งดันผู้ประกอบการใต้ถึงแหล่งทุน


ก.อุตสาหกรรม นำทัพหน่วยงานพันธมิตร เปิด“คลินิกเอสเอ็มอีสัญจรตามแนวประชารัฐ” ครั้งที่  ในพื้นที่ จ.กระบี่  ส่งเสริมให้เอสเอ็มอีแดนใต้เข้าถึงแหล่งเงินทุนและองค์ความรู้ มุ่งสร้างเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น  เผยเวลานี้ ทั่วประเทศยื่นขอเงินสนับสนุนแล้ว 9,772 ราย วงเงิน 26,639.94 ล้านบาท อนุมัติสำเร็จ 2,555 ราย ในวงเงิน 7,240.10 ล้านบาท แย้มสัปดาห์หน้าเตรียมถก ธปท. สมาคมธนาคารไทยและเอกชน หามาตรการหนุนถึงแหล่งเงินกู้มากยิ่งขึ้น และลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (สสว.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (ธพว.) และหน่วยงานเครือข่ายจัดกิจกรรม “คลินิกเอสเอ็มอีสัญจรตามแนวประชารัฐ” ในพื้นที่ จ.กระบี่ ใน 2กลุ่มจังหวัดรวม 9 จังหวัด คือ ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง) และภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง) เพื่อส่งเสริมให้เอสเอ็มอีในพื้นที่ดังกล่าวเข้าถึงแหล่งเงินทุนและองค์ความรู้ตามแนวทางรัฐบาลเพื่อสร้างเศรษฐกิจภายใน หรือ Local Economy

รัฐมนตรีอุตสาหกรรม เผยด้วยว่า  สำหรับมาตรการการเงินเพื่อเอสเอ็มอี วงเงินรวม 38,000 ล้านบาท ขณะนี้มีการยื่นคำขอเงินสนับสนุนผ่าน 4 กองทุนแล้ว 9,772ราย วงเงิน 26,639.94 ล้านบาท อนุมัติแล้วจำนวน 2,555 ราย ในวงเงิน 7,240.10 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนในส่วนของธนาคาร  และแนวทางการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในสัปดาห์หน้ากระทรวงฯ สมาคมธนาคารไทย ภาคเอกชนจะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหามาตรการมาเสริมให้กับเอสเอ็มอีมากขึ้นและภายใน 2 สัปดาห์จะได้ข้อสรุป

เราจะพยายามหาเครื่องมือให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้นโดยจะหารือร่วมกันสัปดาห์หน้าในเรื่องของการค้ำประกันเงินกู้ การบริหารความเสี่ยงค่าเงินรองรับการส่งออก และองค์ความรู้เกี่ยวกับการเงินในการมาร่วมเป็นโค้ชชิ่ง โดยเงินจาก 4 กองทุนหลักที่รวมประมาณ 38,000 ล้านบาท เราหวังว่าจะปล่อยเอสเอ็มอีหมดสิ้นปีนี้จากนั้นเราจะยกร่าง พ.ร.บ.กองทุนฯ เพื่อให้มีกองทุนช่วยถาวรในปีหน้า” นายอุตตมกล่าว

สำหรับแหล่งเงินทุน 4 กองทุนวงเงิน 38,000 ล้านบาท  ได้แก่ 1. กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท 2. โครงการสินเชื่อSMEs Transformation Loan วงเงิน 15,000 ล้านบาท 3. เงินทุนที่บริหารโดย สสว. ได้แก่ กองทุนพลิกฟื้นเอสเอ็มอี วงเงิน 1,000 ล้านบาท และกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอีวงเงิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นช่องทางที่จะทำให้เอสเอ็มอีทุกระดับเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อใช้พัฒนา ปรับปรุง และนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตในการสร้างขีดความสามารถการแข่งขันและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้

ทั้งนี้ การลงพื้นที่ จ.กระบี่ จากข้อมูลล่าสุดในพื้นที่ 9 จังหวัดมีผู้ยื่นคำขอกู้เงินจากทุกกองทุนเข้ามาแล้วรวม จำนวน 915 ราย วงเงิน 2,183 ล้านบาท และได้อนุมัติแล้ว จำนวน 242 ราย วงเงิน 731 ล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐวงเงิน 20,000 ล้านบาท สำหรับจังหวัดกระบี่ที่พึ่งเริ่มดำเนินการมาประมาณ 2 เดือน มีคำขอสินเชื่อเข้ามาแล้วจำนวน 10 ราย วงเงิน 52 ล้านบาท จากเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อทั้งสิ้น 62 ราย วงเงิน 186  ล้านบาท ชี้ให้เห็นว่ากระแสการตอบรับของผู้ประกอบการมีแนวโน้มที่ดี โดยขณะนี้ได้มีการอนุมัติไปแล้ว 7 ราย วงเงิน 37.5 ล้านบาท เป็นธุรกิจประเภทโรงแรม ภาคการผลิต และธุรกิจบริการ

การจัดคลินิกสัญจรครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ ซึ่ง จังหวัดภาคใต้ดังกล่าวมีจำนวน SMEs มากถึง 257,667 ราย ถือเป็นการส่งเสริมเอสเอ็มอีให้เกิดการพัฒนาโดยเฉพาะการท่องเที่ยวให้เป็นสีเขียว ซึ่งในพื้นที่นี้มีโรงงานที่เข้าร่วมโครงการ Green Industry แล้ว 1,776 โรงงาน ขณะที่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปในพื้นที่ภาคใต้มีพืชเกษตรหลัก ชนิด คือ ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าไปสนับสนุนในทั้งสองอุตสาหกรรมให้เกิดมูลค่าเพิ่ม เช่น การพัฒนาพื้นสนามกีฬายางพารา การพัฒนาดอกยางล้อสำหรับรถบรรทุกที่ประหยัดพลังงานให้ปริมาณเขม่าดำน้อย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยให้ปริมาณการใช้ยางธรรมชาติเพิ่มขึ้น เป็นต้น” นายอุตตม กล่าว