การส่งต่อธุรกิจรุ่นสู่รุ่น สู่การพัฒนาส่งออกสินค้าเกษตร จนมาจับสินค้าที่เขาว่าต่างชาตินิยมมากที่สุด คู่แข่งน้อย แต่ผลิตยากที่สุด โฟกัสกับดร.นงนุช อธิพันธุ์อำไพ (คุณผึ้ง) ทายาทรุ่นที่ 3 ที่เข้ามาพัฒนา ธุรกิจส่งออกสินค้าเกษตร ที่สร้างผลกำไรเกินเท่าตัว
ที่มาที่ไปก่อนที่จะทำธุรกิจส่งออกใบ
ตองนั้นแต่เดิมครอบครัวทำธุรกิจค้าข้าวโดยการคัดเกรดข้าวหอมมะลิพรีเมียมส่งออกต่างประเทศ ต่อมาได้เปิดบริษัทโกลเบิลฟูด เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นการครอบคลุมไปถึงสินค้าประเภทอาหารโดยทำควบคู่กับการส่งออกข้าว ทำไปทำมาคิดได้ว่าเราก็สามารถผลิตเองได้จึงได้เปิดบริษัทโอชาฟูดแพ็ค จำกัด เพิ่มขึ้นมา โดยเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าเกษตรและอาหารสู่ตลาดสากล ซึ่งสินค้าที่ส่งออกที่โดดเด่นคือ ใบตอง ซึ่งเป็นสินค้าที่เป็นความต้องการในต่างประเทศเป็นอย่างมาก
จากการส่งต่อธุรกิจจากรุ่นคุณปู่ สู่รุ่นคุณพ่อ จนปัจจุบันคุณผึ้งทายาทรุ่นที่ 3 ก็ได้เข้ามารับช่วงต่อธุรกิจจากคุณพ่อ ซึ่งวิสัยทัศน์ที่คุณพ่อวางไว้ก่อนที่จะส่งต่อธุรกิจคือการพัฒนาธุรกิจให้ได้รับมาตรฐาน โดยทางคุณผึ้งเองก็เต็มใจที่จะมาสานต่อธุรกิจครอบครัวนี้เนื่องจากตัวเองนั้นได้คลุกคลีกับธุรกิจมาตั้งแต่เด็กๆ จึงทำให้ซึบซับธุรกิจมาตั้งแต่แรกเริ่ม ประจวบกับคุณผึ้งเลือกเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์อาหาร ทำให้เข้าใจถึงขั้นตอนการผลิตได้ แต่ก็ไม่มีความรู้ทางด้านการควบคุมโรงงานเลย จึงต้องอาศัยการเรียนรู้อยู่พักนึง ซึ่งทางคุณผึ้งเองก็เข้ามาปรับเปลี่ยนกระบวนการต่างๆภายในโรงงาน ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น รวมไปถึงนำนวัตถกรรมใหม่ๆเข้ามาใช้กับสินค้าเกษตร และนำสินค้าที่ตัวเองมีอยู่แล้วนำมาต่อยอดกลายเป็นสินค้าใหม่ขึ้นมา
แต่ถ้าเรามาดูสินค้าที่่ส่งออกนั้น 1 ในนั้นก็คือใบตอง ซึ่งไม่มีใครคิดว่าใบตองจะเป็นที่ต้องการของต่างประเทศ แต่ถ้าเรามองให้ลึกลงไปนั้น ใบตองถูกใช้เป็นส่วนประกอบในการห่อหุ้มอาหาร ซึ่งการคิดค้นนี้มีมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อในการหาใลตองที่เหมาะกับการส่งออก โดยต้องเป็นใบตองที่สามารถคงสภาพไว้ได้ ซึ่งสุดท้ายก็สามารถหาพันธ์ใบตองที่เหมาะสมได้ และมีซัพพลายเออร์ของจัดหาใบตองมาส่ง ถึงแม้ว่าการส่งออกใบตองจะดูเหมือนง่าย แต่ด้วยการที่ตัวใบตองมีข้อจำกัดอยู่แล้ว ทำให้คุณผึ้งต้องหาวิธีที่จะสามารถส่งใบตองคุณภาพดีให้กับลูกค้าต่างประเทศในสภาพที่สมบูรณ์ เชื่อหรือไม่ว่าการส่งออกใบตองนั้นทำรายได้ให้บริษัทเป็นกำไรที่สูงมาก เนื่องจากมีลูกค้าที่ต้องการใบตองอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้การส่งออกใบตองสามารถทำกำไรได้หลักร้อยล้านต่อปีเลยทีเดียว
จากวิสัยทัศน์ที่มองเห็นโอกาสในการทำ ธุรกิจส่งออกสินค้าเกษตร ทราบถึงความต้องการของผู้บริโภค และการใช้นวัตถกรรมใหม่ๆเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผุ้บริโภคในยุคนี้ ทำให้การพัฒนาธุรกิจโดยคนยุคใหม่โดยทายาทรุ่นที่ 3 สามารถเพิ่มผลกำไรได้อย่างยั่งยืน
[บทความทั้งหมด] | [คลิปรายการทั้งหมด]