NIA หรือสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เป็นหน่วยงานก็จะคอยช่วยซัพพอร์ททั้งทุน และงานวิจัยต่างๆซึ่งงานวิจัยที่ว่านี้ ก็เช่นงานวิจัยที่จะต่อยอดไปในเชิงพาณิชย์ ต้องยอมรับว่านวัตกรรมและเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญมากต่อการผลักดัน SME ไปสู่ยุค 4.0 ซึ่งทุกวันนี้เราก็เริ่มเห็นผู้ประกอบการหลายราย เพิ่มนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น แป้งพับโอริเซ่ เป็นแป้งบัพจากแป้งข้าวเจ้า ซึ่งก็ถือว่าช่วยเพิ่มมูลค่าได้อีกลายเท่าตัวเลย แถมยังปลอดภัยต่อผู้ใช้อีกด้วย
ส่วนสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช.ก็เป็นหน่วยงานที่เราจะคุ้นเคยและรู้จักกันดีในเรื่องของงานวิจัยและพัฒนามาช่วยให้ภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมสามารถดำเนินงานได้ดี มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่ง สวทช. ได้ดำเนินงานผ่านการทำงานร่วมกันของศูนย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เอมเท็ค นาโนเทค ไบโอเทค เนคเทค ส่วนสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ก็เป็นรัฐวิสาหกิจทำงานร่วมกันกับ สวทช. นะครับ แต่บาทบาทของ วว.จะเน้นผู้ประกอบการ SME หรือโอท็อปเป็นหลัก
โดยในส่วนของการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการนั้น NIA กล่าวว่า รูปแบบการให้ทุนนั้นมีหลากหลายรูปแบบ สำหรับการไปขอทุนสิ่งที่ต้องมี คือ Business Plan เรียกได้ว่า ทุกโปรเจคที่มาเสนอ ต้องมีโอกาสหรือความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์ อย่างทุนที่ให้ก็จะมี คูปองนวัตกรรม , แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน นวัตกรรมดีไม่มีดอกเบี้ย หรือการสนับสนุนด้านวิชาการก็มีเหมือนกัน ถ้าสงสัยเกี่ยวกับทุนตัวไหน กรอบการพิจารณาแต่ละทุนเป็นอย่างไร ก็สามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ของ NIA
ส่วนทางฝั่ง สวทช. นอกจากจะทำเรื่องงานวิจัยและพัฒนาแล้วก็ยังมีหลักสูตรสอนผู้ประกอบการ เช่น หลักสูตรงบการเงิน ทำตลาด ขยายตลาด มีแผนธุรกิจ เรียกง่ายๆว่าบ่มเพาะให้ตกผลึก แล้วนำไปต่อยอดได้
นอกจากนี้ในด้านของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ถ้าผู้ประกอบการรายใดอยากทำผลิตภัณฑ์ อยากมีโปรดักส์แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี ก็สามารถมาดูงานวิจัยได้ เพราะมีงานวิจัยใหม่ๆมาให้ช็อปก่อนตัดสินใจ เพราะบางเรื่อง นักวิจัยก็ทำวิจัยไว้แล้ว หรือผู้ประกอบการอาจมีโจทย์มาให้วว.ให้นักวิจัยช่วยคิด ซึ่งทุกหน่วยงานก็พร้อมให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุนอย่างเต็มที่ ขอแค่ผู้ประกอบการเดินเข้ามาหา