น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด หรือ (PTTRM) เปิดเผยว่า ปตท.อยู่ระหว่างพิจารณาจะต่อสัญญาหลักความร่วมมือการดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น อีเลฟเว่น” ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ทั่วประเทศ กับ ซีพี ออลล์ ต่อไปหรือไม่ จากปัจจุบัน เซเว่น อีเลฟเว่น มีร้านสาขาที่เปิดให้บริการในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ประมาณ 1,100 แห่ง และจะทยอยหมดอายุสัญญาลงใน 6 ปีข้างหน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินศักยภาพความแข็งแกร่งของร้านสะดวกซื้อ “จิฟฟี่” ที่ปัจจุบันมีอยู่ 149 สาขาในสถานีบริการน้ำมัน และ 6 สาขานอกสถานีบริการน้ำมัน
“ภายใน 2-3 ปีนี้ จะต้องได้ข้อสรุปว่า ปตท.จะพิจารณาต่อสัญญาแฟรนไชส์กับเซเว่น อีเลฟเว่น หรือไม่ โดยจะพิจารณาจากสถิติคนเข้าร้านและรายได้ รวมถึงความพร้อมของ จิฟฟี่ ที่ขณะนี้เร่งสร้างความแข็งแกร่งในแบรนด์และคาดว่าใน 6 ปีข้างหน้าจะมีความพร้อมมากขึ้น”
ทั้งนี้ ใน 5 ปีข้างหน้า ปตท.มีแผนที่จะลงทุนเปิดสถานีบริการน้ำมันบนพื้นที่ 6-7 ไร่ จำนวน 30 สาขา และส่วนใหญ่ร้านสะดวกซื้อจะเป็น “จิฟฟี่” เนื่องจากสถานีบริการฯที่มีขนาดพื้นที่มากกว่า 4 ไร่ขึ้นไป และมีพื้นที่ทำร้านสะดวกซื้อมากกว่า 279 ตารางเมตร จะไม่ติดลิขสิทธิ์แฟรนด์ไชส์กับ “เซเว่น อีเลฟเว่น” โดยร้านจิฟฟี่จะเน้นเรื่องอาหารพร้อมปรุงเป็นหลักในสัดส่วน 70% จากเดิมที่อยู่ในสัดส่วน 30-40% เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
ด้าน นายสรัญ รังคสิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจมุ่งสู่แบรนด์ชั้นนำในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพีทีทีอาร์เอ็มได้นำร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่บุกเบิกธุรกิจค้าปลีก ผ่านสถานีบริการ ปตท. ในประเทศลาว พร้อมมอบสิทธิในการจำหน่ายเฟรนไชส์จิฟฟี่ทั้งหมดในประเทศลาวให้แก่พีทีทีลาว นอกจากนี้บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจให้ได้เป็นที่รู้จักในนานาประเทศ จึงได้เปิดร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่รูปแบบแฟรนไชส์ในประเทศกัมพูชา และประเทศฟิลิปปินส์แล้วเช่นกัน
โดยปี 2560 ประเทศลาว มีร้านจิฟฟี่จำนวน 19 สาขา และมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนร้านเฟรนไชส์เป็น 97 สาขาภายในปี 2565 ขณะเดียวกันก็มีจิฟฟี่ในหลายประเทศของอาเซียน อาทิ กัมพูชา ฟิลิปปินส์ ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการเตรียมลงทุนในพม่า และเวียดนาม แต่ยังติดด้านข้อกฎหมายของประเทศ ที่บริษัทต้องศึกษาอย่างรอบคอบ