คุณคิดว่ารถใช้ก๊าซ NGV – LPG อย่างไหนประหยัดหรือดีกว่ากัน?


ปัจจุบันมีผู้ใช้รถยนต์จำนวนมากที่หันมาใช้พลังงานทดแทนจากแก๊ส NGV และ LPG  ซึ่งแน่นอนว่าด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนคือเน้นการประหยัดในการเดินทาง เพื่อให้เงินในกระเป๋าอยู่ได้นานขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจไม่สู้จะดีนัก การประหยัดจึงเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยให้การดำเนินชีวิตอยู่ได้ตลอดจนถึงสิ้นเดือน   ล่าสุดจากกรณีที่กระทรวงพลังงานได้เสนอปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม หรือ LPG 0.67 บาทต่อ กก. ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลต่อราคาขายปลีกสำหรับก๊าซหุงต้มขนาด 15 กก.ที่ขยับเพิ่มอีก 10 บาทต่อถัง ด้วยเหตุผลที่ว่าเกิดจากก๊าซ LPG ในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานยังได้มอบหมายให้ ปตท.ไปบริหารจัดการต้นทุนก๊าซ NGV สำหรับรถส่วนบุคคลให้เหมาะสม

แน่นอนว่าเรื่องการเลือกใช้พลังงานโดยเฉพาะกับก๊าซสำหรับรถยนต์ ระหว่าง NGV และ LPG นั้นอาจมีคนสงสัยว่าตกลงเรื่องของความปลอดภัยนั้นจะต่างกันอย่างไร หากใช้อุปกรณ์ที่ได้ตามมาตรฐานจะมีความปลอดภัยเท่ากันแต่ถ้าเกิดในกรณีที่นอกเหนือจากความคาดหมาย เช่นการรั่ว การแตก และเกิดประกายไฟหรือมีแหล่งไฟใกล้เคียงก็แย่พอ ๆกัน โดย NGV จะกระจายตัวได้เร็วกว่า LPG เพราะมีความเบา แต่หากติดไฟก็จะกระจายเป็นวงกว้าง ส่วน LPG ที่หนักกว่าอากาศจึงทำให้กระจายตัวได้ช้ากว่า แต่ถ้าติดไฟก็จะกองอยู่บริเวณพื้น ใครที่คิดว่า LPG อันตรายกว่า NGV เนื่องจากมองว่า NGV ใช้ถังที่หนาหากรถโดนชนหรือโดนกระแทกในความเร็วที่เท่ากันถัง LPG ย่อมมีโอกาสรั่วได้สูงกว่า เหตุผลที่ว่านี้ก็อาจไม่จริงเสมอไป

ด้านความคุ้มค่าก็ต้องดูก่อนว่ารถที่จะติดตั้งเป็นรถประเภทไหน และรถประเภทนั้นเหมาะกับก๊าซแบบไหนถ้าติดได้ทั้งสองแบบค่าติดตั้งของ NGV จะสูงกว่า 2 เท่า แต่ข้อได้เปรียบที่ราคา NGV จะถูกกว่าเพราะ NGV  1 กิโลกรัม กับ LPG 1 ลิตร วิ่งได้ประมาณ 10 กม. พอ ๆกัน

ขณะที่ปั๊มแก๊ส NGV ปัจจุบันยังคงมีจำนวนน้อย และส่วนใหญ่จะกระจุกขายเฉพาะในเมืองเท่านั้น แต่ LPG มีปั๊มให้เลือกเติมมากกว่าทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด

สำหรับข้อสังเกตที่ว่ารัฐบาลให้การสนับสนุนแต่ NGV นั้น จากข้อมูลเท่าที่ทราบคือ ปตท.เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของ NGV ปั๊มส่วนมากจึงเป็นปตท. ทั้งค่าสร้างปั๊มที่สามารถเติม NGV ก็มีราคาสูง

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจใช้ก๊าซในรถยนต์ นี่เป็นข้อมูลเบื้อต้นที่ทราบมาเท่านั้น ไม่ได้ไปตัดสินชี้ชัดว่าอะไรดีกว่าอะไร มีเพียงผู้ใช้รถยนต์เองเท่านั้นที่จะเลือกสิ่งที่เหมาะสมและดีที่สุดให้กับตัวเองได้