ยุคนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นยุคที่ผู้บริโภคเข้ามามีอิทธิพลต่อการทำตลาดของธุรกิจเป็นอย่างมาก หากไม่รู้จักที่จะเรียนรู้พฤติกรรม และ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคในทุกมิติ คงยากที่ธุรกิจนั้นจะประสบความสำเร็จ เพราะ พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ถือว่าเป็นแรงขับเคลื่อนอย่างหนึ่งที่จะทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ หรือประเภทธุรกิจใหม่ๆ จากที่ได้ศึกษาข้อมูลจาก Global Mega Trends หรือเทรนด์ธุรกิจที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ พบว่าในปี 2017 มีธุรกิจอยู่หลายประเภทที่ตอบโจทย์ต่อสภาพความเปลี่ยนแปลงไปของสังคมและภาวะเศรษฐกิจ โดยมีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นผู้ช่วยสำคัญ มีอยู่ด้วยกันหลัก ๆ 5 ประเภทด้วยกัน
– ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
กลุ่มเป้าหมายที่สำคัญเห็นจะเป็นกลุ่มคนเมือง ครอบครัว หรือกลุ่มคนทำงานที่มีเวลาจำกัด ไม่ชอบการต่อคิวรอเป็นเวลานาน ๆ ไม่อยากออกจากบ้าน ธุรกิจประเภทนี้จะต้องตอบสนองด้วยการนำเอาเทคโลโลยี หรือความร่วมมือต่างๆ เข้ามาช่วยให้เกิดคุณภาพ อย่างการนำเอาบริการด้านการขนส่งอาหารผ่านพาร์ทเนอร์ต่างๆ อาทิ ไปรษณีย์ไทย , Uber , Grab , Line Man, Food Panda, Skoota เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อเพิ่มความสะดวกให้การส่งสินค้าไปถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าได้อีกด้วย
– ธุรกิจเพื่อสุขภาพ
สังคมในบ้านเรากำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว เทรนด์ธุรกิจประเภทที่เกี่ยวกับสุขภาพจึงเป็นที่น่าจับตามอง เพราะผู้คนในยุคนี้ต่างหันมาให้ความสำคัญและใส่ใจสุขภาพของตนในหลากหลายมิติ โดยคาดหวังว่าสินค้าและบริการที่ได้รับจะต้องมีประโยชน์และให้ความสุขกับตนได้อย่างสมเหตุสมผล ครบทั้งกาย ใจ และสามารถส่งต่อไปสู่คนรอบข้างได้ ธุรกิจที่เกิดขึ้นจึงต้องเน้นให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มคนที่รักสุขภาพและชื่นชอบการออกกำลังกาย อาจหมายความถึงนักกีฬาด้วยเป็นสำคัญ อีกทั้งหากมองลงไปให้ลึก กลุ่มพนักงานออฟฟิศก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งของผู้บริโภคหลักที่เริ่มหันมาดูแลสุขภาพอันเนื่องจากการทำงานที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาว
– ธุรกิจที่เกี่ยวกับผู้สุงอายุ
ไม่เพียงประเทศไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่ทั่วโลกก็กำลังประสบกับภาวะนี้ด้วยเช่นกัน โดยสัดส่วนของผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี สะท้อนให้เห็นว่าตลาดของผู้สูงอายุกำลังมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาจึงมีความต้องการสินค้าและบริการที่เฉพาะด้าน โดยเป็นกลุ่มวัยกลางคนที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ขณะที่ผู้สูงอายุในยุคนี้แตกต่างจากยุคก่อนๆ จากการถึงของเทคโลโนยีที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน กลุ่มผู้บริโภคกลุ่มนี้จึงสามารถเข้าถึงข้อมูลและข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ผ่านอุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่มีความทันสมัยและฉลาด ฉะนั้นธุรกิจที่เกิดขึ้นจึงต้องตอบสนองความต้องการในแง่ของสิ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันได้ มีบริการที่ช่วยบรรเทาและรักษาอาการเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นอย่างได้ผล ตลอดจนตอบสนองความสุขทางกายและจิตใจในบั้นปลายชีวิตได้อย่างรอบด้าน สิ่งสำคัญของการทำตลาดคือความน่าเชื่อถือ , คุณภาพ และความปลอดภัย ผ่านสินค้าที่ตอบโจทย์ให้หลากหลาย อาทิ เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน สินค้าไลฟ์สไตล์ หรืออุปกรณ์ไอทีสำหรับผู้สูงอายุ อย่าง GPS นำทาง , นาฬิกาเตือนทานยา , อุปกรณ์วัดการเต้นของหัวใจเป็นต้น
– ธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี
ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ประกอบการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่โลกออนไลน์อย่างเต็มตัว การเข้าถึงอุปกรณ์ใหม่ๆจึงไม่ใช่เรื่องยาก ทำให้เกิดเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่เรียกว่า กลุ่มไวเทค (Tech Savvy Group) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความรู้และความเข้าใจในเทคโนโลยีเป็นอย่างดี มีพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียหลากหลายประเภทจนแทบจะเป็นปัจจัยที่ 5 ของการดำเนินชีวิต ซึ่งตลาดในบ้านเรากำลังให้ความสนใจไปยังธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจที่เกิดขึ้นนอกจากจะต้องตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคแล้ว การสื่อสารเพื่อให้เกิดการรับรู้จากธุรกิจเพิ่มเติมก็มีส่วนสำคัญ อาทิ การอัพเดทสินค้าและบริการในร้าน มีโปรโมชั่นในงานขายอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนให้ความสำคัญกับการให้บริการก่อนและหลังการขาย โดยดึงเอาแฟลตฟอร์มยอดนิยมเข้ามาเป็นตัวช่วย ไม่ว่าจะเป็น Social Commerce : Line , Instagram , Facebook หรือ Market Place ที่มีผู้เล่นในตลาดจำนวนมาก : Alibaba Group , Weloveshopping , ตลาดดอทคอม นับว่าเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าธุรกิจจะประสบความสำเร็จหรือไม่ อีกทั้งกลุ่มไวเทคยังเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ไวต่อการรับรู้ จึงเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ของนักการตลาดที่ต้องการเข้าไปเจาะกำลังซื้อจากรูปแบบพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป
– ธุรกิจที่เกี่ยวกับความสวยงาม
ยุคนี้ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น คนทำงาน หรือผู้คนวัยไหนๆต่างก็มีความต้องการให้ตนเองนั้นดูดี มีรูปร่างหน้าตาที่ดี มีบุคลิกภาพเป็นที่พึงพอใจต่อผู้ที่พบเห็น จึงเป็นที่มาของธุรกิจสถานเสริมความงามที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มในส่วนที่ผู้บริโภคต้องการ นับเป็นหนึ่งธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีจำนวนความนิยมลดน้อยลงจากปีก่อนๆ ไปมากก็ตาม ตัวชี้วัดความสำเร็จไม่ได้มีแค่เพียงความหลากหลายของบริการ เครื่องมือที่ทันสมัย และคุณภาพ แต่ยังต้องให้ความพึงพอใจต่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างรอบด้าน และอย่างที่บอกว่าผู้บริโภคในยุคนี้เป็นกลุ่มที่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและเนื้อหาต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็วกว่าแต่ก่อนมาก ฉะนั้นก่อนการเดินทางมาใช้บริการพวกเขาย่อมต้องทำการศึกษาข้อมูลล่วงหน้าจากแหล่งต่างๆ ก่อน ธุรกิจจึงควรเลือกที่จะทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ อย่าง โซเชียลมีเดียเพื่อให้ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากที่สุด มีการรีวิวจากผู้ที่ได้เดินทางมาใช้บริการจริง อาจให้บล็อคเกอร์ หรือกูรูด้านความงามเป็นผู้สื่อสารข้อมูลต่าง ๆไปถึงผู้ใช้ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในวงกว้างและรวดเร็ว น่าเชื่อถือ นอกจากนั้นภาพลักษณ์ของธุรกิจก็เป็นส่วนสำคัญ พยายามหาและสร้างความโดดเด่นให้กับบริการ มีทำเลที่ตั้งสถานเสริมความงามอยู่ในย่านคุณภาพ โดยเลือกให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่ธุรกิจต้องการเจาะเป็นสำคัญ
ข้อมูลจาก : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย