แนะเอสเอ็มอีรับมือจีน หลังเชื่อมวัน เบลท์ วัน โรด


นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานสภาธุรกิจไทย-จีน เปิดเผยในงานสัมมนาซีรีส์ 3 “ล้วงลึกยุทธศาสตร์พญามังกรใหม่ ไทยได้อะไรจากนโยบายวัน เบลท์ วัน โรด” ว่า ต้องการให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในกลุ่มร้านอาหาร, ที่พัก, บริการท่องเที่ยว และโลจิสติกส์ ปรับแผนธุรกิจรองรับกลุ่มพ่อค้า, นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวของจีนประมาณ 130 ล้านคนที่มีแผนจะเข้ามาดำเนินธุรกิจตามเส้นทางนโยบายวัน เบลท์ วัน โรดของจีน โดยเฉพาะประเทศไทยที่จะได้รับประโยชน์จากการเป็นจุดศูนย์กลางในการเชื่อมโยงจีน กับกลุ่มอาเซียน เป็นต้น เนื่องจากคนกลุ่มนี้จะมีกำลังซื้อที่สูง

ปัจจุบันจีนมีโครงการเชื่อมเส้นทางรถไฟจากเมืองคุนหมิง โดยมีปลายทางคือประเทศสิงคโปร์ ที่ต่อทะลุผ่านเวียดนาม สปป.ลาวเข้าสู่ไทยทางหนองคายลงไปยังแหลมฉบัง เป็นเส้นทางสำคัญที่จีน จะใช้เป็นประตูไปสู่มหาสมุทรอินเดีย ดังนั้นประเทศไทยจะได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากการขนผ่านสินค้า, บริการอะไหล่เครื่องจักรต่าง ๆ เพื่อซ่อมบำรุงและอื่น ๆ ดังนั้น จึงต้องสร้างระบบบริการขึ้นมารองรับเพราะมีการประเมินว่าประชากรของจีน 130 ล้านคนจะออกนอกประเทศมาทำการค้าหรือท่องเที่ยวตามเส้นทางดังกล่าวและถ้าหากธุรกิจ เอสเอ็มอีมีแผนรองรับที่ดีเชื่อว่าจะสร้างรายได้มหาศาลแน่นอน

ขณะเดียวกันเชื่อว่าในอนาคตนักลงทุนจากจีนจะเข้ามาตั้งโรงงาน หรือเข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยเพิ่มขึ้นเช่นกันและน่าจะเป็นอันดับหนึ่งของต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทย ดังนั้นขอแนะนำให้นักลงทุนไทยซื้อที่ดินรองรับกับการเข้ามาของผู้ประกอบการจีนที่มาทำธุรกิจตามเส้นทางของนโยบายวัน เบลท์ วัน โรด เช่น ทำสัญญาการให้เช่าที่ด้วยการรับส่วนแบ่งจาก ค่าเช่า หรือการทำสัญญาในการเป็นผู้ร่วมลงทุนก็ได้