ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ในงานดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง 2017 ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระดับนานาชาติในด้านดิจิทัลหลายหน่วยงาน โดยเอ็มโอยูหลัก ๆคือการลงนามร่วมกับ GEN (Global Entrepreneurship Network) ศูนย์ความร่วมมือสตาร์ทอัพระดับโลก มีประเทศสมาชิกกว่า 165 ประเทศ
เพื่อจัดตั้ง GEN Asia ซึ่งเป็นศูนย์ความร่วมมือสตาร์ทอัพระดับภูมิภาคแห่งที่ 2 รวม 10 ประเทศ คือ จีน สิงคโปร์ อินเดีย ปากีสถาน ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม เมียนมา และไทย โดยแห่งแรกคือ GEN แอฟริกา มีศูนย์กลางดำเนินงานแอฟริกาใต้
โดยศูนย์กลางการดำเนินงานของ GEN Asia คือ กรุงเทพฯ GEN Asia ไม่ได้มีสำนักงานเป็นรูปธรรม แต่จะใช้พื้นที่การดำเนินงานภายในกระทรวงดีอี ซึ่งหลังจากนี้จะผลักดันความร่วมมือด้านการสนับสนุนสตาร์ทอัพในเอเชียเป็นรูปธรรม ผ่านการจัดสัมมนา และกิจกรรมเชื่อมโยงสตาร์ทอัพระหว่างประเทศ สำหรับในประเทศไทยเน้นสนับสนุนสตาร์ทอัพ ผ่าน 2 ช่องทาง คือ การร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในประเทศบ่มเพาะสตาร์ทอัพในกลุ่มนักศึกษา และระดมทุน Angel Fund ช่วยเหลือสตาร์ทอัพระยะเริ่มต้น โดยอาจดึงเงินสนับสนุนจากตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สำหรับกลุ่มทุนที่สนับสนุนสตาร์ทอัพส่วนใหญ่มาจากกลุ่มวีซี มีมูลค่าทุนสนับสนุนรวม 2.7 หมื่นล้านบาทในปัจจุบันซึ่งมักเป็นการสนับสนุนสตาร์ทอัพระดับกลางถึงระดับสูง ขณะที่กลุ่มทุนสนับสนุนสตาร์ทอัพรายย่อยยังมีจำนวนน้อยจึงเป็นแนวคิดระดมทุน Angel Fund เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพกลุ่มนี้ ซึ่งการใช้กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางการดำเนินงานของ GEN Asia จะส่งผลให้สตาร์ทอัพไทยเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติและเป็นแนวทางหนึ่งในการขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0 โดยปัจจุบันไทยมีสตาร์ทอัพทั้งสิ้นราว 5,000 ราย
และจากการจัดงานดิจิทัลไทยแลนด์ บิ๊กแบง เมื่อวันที่ 21-24 ก.ย.60 ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จมาก เพราะมีทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ คนรุ่นใหม่ ทั้งไทยและต่างประเทศ สนใจเข้าร่วมชมงานอย่างคับคั่ง โดยเชื่อว่าผู้ที่เข้าชมงานครั้งนี้จะนำความรู้และแรงบันดาลใจที่ได้จากงานดิจิทัลบิ๊กแบง ไปต่อยอดพัฒนาธุรกิจ และจะมีผลต่อการสร้างงาน สร้างรายได้ในชุมชน ทำให้เศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง มั่นคงและยั่งยืนได้ในอนาคต