สภาอุตฯ ห่วงขึ้นค่าแรงตอนนี้ SMEs ปรับตัวไม่ทัน


นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าแรงต้องพิจารณาในหลายมิติ เช่น อัตราเงินเฟ้อ ผลิตภาพการผลิต เป็นต้น แต่การปรับขึ้นค่าแรงตามทักษะของแรงงานฝีมือถือเป็นความเหมาะสม เพราะมีความ คุ้มค่ากับผลงาน ซึ่งขึ้นอยู่กับความพอใจระหว่างนายจ้างและลูกจ้างในการตกลงกัน แต่การปรับฐานค่าแรงขั้นต่ำในขณะนี้ มองว่าอาจจะเร็วเกินไป เนื่องจากผลประกอบการยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ดังนั้นอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้ อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นค่าแรงดังกล่าวมีหน่วยงานที่ดูแลโดยตรงคือ ไตรภาคี เป็นผู้กำหนดอัตราค่าจ้างที่เหมาะสม ดังนั้นเชื่อว่าไตรภาคีจะพิจารณาอย่างเหมาะสมแน่นอน

ขณะที่นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าแรงแบบพรวดพราดนั้นเป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ประกอบการทุกระดับ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี ส่วนประเด็นที่มองว่าการเพิ่มค่าแรงอาจจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากนั้น ตนมองว่ารัฐควรสนับสนุนให้เกิดความเข้มแข็งตั้งแต่ระดับภาคการเกษตร ซึ่งรายได้จากส่วนนั้นจะมีผลต่อการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

ทางด้านพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและนายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่า ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ที่รากฐานยังไม่ดี เท่าที่ควรเพราะเพิ่งดีขึ้น และตัวส่งออก ที่เห็นว่าดีขึ้นก็จะเห็นว่าไปโตในหมวดอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานน้อย ขณะเดียวกันตัวสินค้าเกษตรก็ยังโตไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตอนนี้อาจจะส่งผลกระทบมากกว่า