หวั่นค่าแรง-วัตถุดิบ กดดันผู้ค้าครึ่งปีหลัง


นายสุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์ นักวิจัย ฝ่ายวิจัยสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ซึ่งมีบริษัทจดทะเบียนตอบกลับ 119 บริษัท มีมูลค่าหลักทรัพย์รวม 38% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดทั้งตลาดสิ้นเดือน ก.ค. 2560 เกี่ยวกับมุมมองครึ่งปีหลัง ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (ซีอีโอ) ส่วนใหญ่ คาดว่าปัจจัยต้นทุนแรงงาน ราคาวัตถุดิบที่จะปรับเพิ่มขึ้น อาจกระทบต่อราคาสินค้าและบริการ รวมถึงการจ้างงาน เป็นปัจจัยลบกดดันผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังได้

ทั้งนี้ 62% ของซีอีโอ มองว่า รายได้ปีนี้จะโตน้อยกว่า 6% เมื่อแจกแจงต้นทุนแต่ละด้าน ซีอีโอ 53% คาดว่าต้นทุนแรงงานจะปรับเพิ่มขึ้น ทำให้มุมมองภาพรวมที่มีต่อแนวโน้มต้นทุนแรงงานเพิ่มขึ้นชัดเจน สาเหตุหลักมาจากการประกาศปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ทั่วประเทศให้อยู่ในช่วง 300-310 บาท/วัน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2560 กระทบโดยตรงกับต้นทุนกิจการ

ขณะที่มุมมองต่อราคาวัตถุดิบนั้น ซีอีโอ 43% คาดว่าราคาวัตถุดิบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหมวด วัสดุก่อสร้าง หมวดกระดาษและวัสดุการพิมพ์ หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และหมวดเหมืองแร่ สำหรับต้นทุนพลังงานและต้นทุนเชื้อเพลิง ซีอีโอ ส่วนใหญ่คาดว่าต้นทุนพลังงาน ต้นทุนเชื้อเพลิงจะไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วง ที่ผ่านมา ส่วนด้านราคาสินค้าและบริการ ซีอีโอ 32% ระบุว่าจะปรับราคาสินค้าและบริการขึ้น

นายยุทธนา เศรษฐปราโมทย์ อาจารย์ประจำคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยว่า การปรับค่าแรงหากอยู่ระดับ 310-320 บาท/วัน คิดว่าน่าจะเป็นอัตราที่ยุติธรรมกับทั้งนายจ้างและลูกจ้าง เนื่องจากอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับผลิตภาพของแรงงานไทยที่เพิ่มประมาณ 2-3% ซึ่งผลิตภาพยังต่ำเนื่องจากการลงทุนสูง ขณะเดียวกันการขึ้นระดับนี้ ก็ไม่ได้มีผลต่อเงินเฟ้อให้ปรับขึ้น