คงเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อยเลยนะครับถ้าเราไปต่างประเทศแล้วดันเผลอทำพาสปอร์ตหาย โดนทัวร์ชิ่ง หรือมีปัญหาอะไรต่างๆ ที่คาดไม่ถึง เหตุการณ์เหล่านี้เราไม่รู้ว่าจะต้องไปแจ้งความกับใคร หรือเดินเรื่องยังไงกันบ้าง นี่ยังไม่รวมเรื่องเดินทางไปกันเองแล้วเจอสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามเข้าถ้าไม่มีไกด์พาทัวร์ ไปต่างประเทศทั้งทีเป็นใครก็อยากเก็บบรรยากาศเอาไว้ให้หมด ซึ่งหลังจากคุณ ธนาชัย ไหลศิริ ผู้คว่ำหวอดอยู่ในวงการทัวร์มาตลอด 25 ปี ได้พบเจอกับปัญหาเหล่านี้ของชาวต่างชาติ ทำให้เกิดเป็นแนวคิดดีๆ สร้างธุรกิจ Startup ที่มีชื่อว่า Trip Buddy ขึ้นมา!
“ผมอยู่ในวงการทัวร์มา 25 ปี เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อยู่ตลอดเวลา สมัยนั้นไม่มีเทคโนโลยีในการเข้ามาอำนวยความสะดวก แต่ทุกวันนี้เทคโนโลยีพร้อม ทำให้เริ่มต้นทำ Trip Buddy ขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติและเป็นรายได้ให้กับคนในประเทศด้วย”
Trip Buddy แอปพลิเคชันดีต่อใจ ที่ชาวต่างชาติต้องมีติดเครื่องไว้ทุกคน
ต้องบอกว่าแอปพลิเคชัน Trip Buddy ยอดเยี่ยมจริงๆ ครับสำหรับแอปพลิเคชันตัวนี้ เพราะ Trip Buddy มี 3 บริการหลักๆ ไว้อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งก็คือ…
- บริการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเวลาประสบปัญหา
- ตามหาไกด์ท้องถิ่น
- ให้บริการ Local Buddy
“กรณีที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเมืองไทย แล้วเกิดปัญหาพาสปอร์ต หรือทรัพย์สินสูญหาย ถูกขโมย หรือได้รับอุบัติเหตุ ระหว่างการเดินทาง หรือไม่ได้รับความยุติธรรม ก็สามารถใช้บริการของ Trip Buddy ได้ ซึ่งเค้าจะมีเจ้าหน้าที่ที่เป็นพาร์ทเนอร์ เปิดบริการออนไลน์ สแตนด์บายไว้ทั่วประเทศ ระบบจะทำการจับคู่โดยหาพาร์ทเนอร์ที่อยู่ใกล้นักท่องเที่ยวคนนั้นมากที่สุด พอหาพบเจ้าหน้าที่ก็จะเดินทางไปหา และเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหา อาจพาไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ หรือพาไปโรงพยาบาล พาไปสถานทูตเพื่อไปออกใบแทนพาสปอร์ต อันนี้ก็แล้วแต่กรณีไป”
ในส่วนของไกด์ท้องถิ่น Trip Buddy จะรวบรวมไกด์ท้องถิ่นที่มีประวัติส่วนตัวดี มีประสบการณ์ทำงานสูง ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวต้องการคนที่จะมาคอยพาทัวร์วัด โบราณสถาน พระราชวัง อะไรพวกนี้ต้องใช้ไกด์ที่มีใบอนุญาตถูกต้อง
และบริการสุดท้ายคือตามหาคนท้องถิ่นที่สามารถพูดภาษาต่างชาติได้ดี ไทย จีน ฝรั่งเศส ได้หมด พนักงานโรงแรม หัวหน้าทัวร์ นักศึกษาเอกท่องเที่ยว หรือคนที่ทำงานด้านบริการ สามารถมาเป็นเพื่อนพาเที่ยวได้ เช่น พาไปชอปปิง พาไปชมเมือง พาไปปีนเขา ขี่จักรยาน แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
Trip Buddy สนับสนุนให้คนไทยมีรายได้เสริม
ทางฝั่งของพาร์ทเนอร์ของ Trip Buddy นั้นจริงๆ แล้วใครก็สามารถเป็นได้ ขอแค่พูดภาษาต่างชาติได้ดี ก็สามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้เลยทันที ซึ่งจะมีแอปพลิเคชันของฝั่งพาร์ทเนอร์โดยเฉพาะ เอาไว้บริหารจัดการเวลาเองได้ สามารถเปิดออนไลน์ ออฟไลน์เองได้ ถ้ามีวันหยุดอยู่บ้านว่างๆ ก็สามารถกดออนไลน์เอาไว้ได้ คล้ายแพลตฟอร์มของ Grab Taxi นั่นเองครับ
“ถ้ามีนักท่องเที่ยวเรียกใช้บริการมา ระบบก็จะทำการหานักท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ที่สุด เพื่อเป็นการจับคู่กัน”
ประสบการณ์ในวงการกว่า 25 ปี ทำให้พร้อมเปิดตัวตลอดเวลา
ถึงแม้ Trip Buddy จะเพิ่งเริ่มต้นเดินหน้าฝ่าฟันกันมาได้เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น และยังไม่ได้ปล่อยให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไปทดลองใช้งานกันด้วยซ้ำ แต่คุณธนาชัยก็ไม่หวั่นในเรื่องของผู้ใช้งานแต่อย่างใด
“เรามีฐานอยู่แล้ว เรามีคอนเนคชันจากที่เราทำทัวร์มา 25 ปี ถ้าเราเปิดตัวออกไปก็สามารถเกณฑ์ผู้ใช้งานเข้ามาได้เลยทันที ส่วนในด้านของพาร์ทเนอร์ก็มีเข้ามาพอสมควรแล้ว เพราะระหว่างพัฒนาแอปพลิเคชันเราก็ได้เชิญทั้งไกด์ และหัวหน้าทัวร์ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งเรียบร้อยแล้ว”
โยกย้ายธุรกิจจากออฟไลน์ สู่ออนไลน์ Trip Buddy ความคิดที่ต้องเปลี่ยนแนว
“แม้ว่าแอปพลิเคชันเรายังไม่ได้เปิดตัวให้ดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการ แต่เราเชื่อว่ามันจะช่วยอำนวยความสะดวก และแก้ปัญหา ในเรื่องของไกด์เถื่อนไปได้ อีกทั้งยังช่วยสร้างโอกาสสร้างรายได้ให้กับคนท้องถิ่นที่มีศักยภาพด้านภาษาแต่ไม่มีโอกาสได้เอาออกมาใช้ด้วย”
วางอนาคตเป็นแอปพลิเคชันช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ
หลังจากที่คุณธนาชัย เริ่มต้นสร้าง Startup ที่คอยช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่าง Trip Buddy ขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว ก้าวต่อไป คือการช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยที่ประสบปัญหาในการท่องเที่ยวต่างประเทศ
“เรามองว่าคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศก็มีจำนวนไม่น้อย ทั้งที่ย้ายถิ่นฐานไปเลย ไปทำงานชั่วคราว หรือไปเป็นนักเรียน นักศึกษาอยู่ที่นู่นก็มีเยอะ เราจึงมองว่าพฤติกรรมของคนไทยในต่างประเทศจะเปลี่ยนไป ไม่เที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์เหมือนแต่ก่อน เนื่องด้วยเรื่องของภาษาเด็กรุ่นใหม่ก็สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ไม่เป็นปัญหา มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา ทั้ง Google ทั้ง GPS ทั้งจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ สามารถทำทุกอย่างเองได้ อัตราการท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์น้อยลง ขณะที่นักท่องเที่ยวอิสระมากขึ้น ซึ่งข้อเสียของการท่องเที่ยวแบบนี้คือ เมื่อเกิดปัญหาจะไม่มีใครคอยให้ความช่วยเหลือ เพราะฉะนั้น Trip Buddy จะหาคนไทยที่อยู่ที่นู่นเพื่อมาคอยช่วยเหลือปัญหาตรงนี้ และสามารถนำเที่ยวได้อีกด้วย”
นอกจากนี้ คุณธนาชัยก็วางแผนเอาไว้ว่าจะเริ่มต้นเปิดตลาดที่ Southeast Asia เป็นที่แรก จากนั้นถึงจะขยับขยายไปจนถึงประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ประเทศที่มีคนไทยอยู่มาก พร้อมตั้งเป้าว่า Trip Buddy จะประสบความสำเร็จ และทำประโยชน์ให้กับคนไทยแบบนี้ได้ในอนาคต เพื่อนักท่องเที่ยว และคนไทยในต่างแดนจะได้มีช่องทางหารายได้ และเที่ยวได้แบบสบายใจนั่นเองครับ