รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
เมืองนี้อยู่ใกล้บ้านเรามากสามารถเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์ล้ำๆ ได้อย่างสบายกระเป๋า ตอนนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองที่เริ่มให้บริการ รถไร้คนขับ กันไปแล้ว (ถึงแม้ว่าจะมีคนนั่งอยู่หลังพวงมาลัยเพื่อป้องกันความผิดพลาดอยู่ก็ตาม) เมืองนี้ยังคงสามารถดึงดูดบริษัทไฮเทคจากทั่วโลกให้เข้ามาได้อยู่เสมอ NuTonomy บริษัท รถไร้คนขับ จากบอสตันก็เป็นหนึ่งในนั้น เริ่มให้บริการในพื้นที่จำกัดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2016 และมีแผนที่จะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในปี 2018 ซึ่งก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว ใครอยากลองนั่งก็คงต้องเตรียมตัวจัดทริปกันได้แล้ว
ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของประเทศที่ได้ชื่อว่าไฮเทคที่สุด ก็ต้องไม่ธรรมดา เมืองไฮเทค นี้จะมีภาพชินตาแบบใหม่ให้เราได้เห็นกัน นั่นคือหุ่นยนต์ขับเคลื่อนด้วยล้อ 6 ล้อ วิ่งส่งอาหารตามบ้าน ผลงานของบริษัท Starship Technologies จับมือกับบริษัทให้บริการส่งสินค้า Postmates นำเอาหุ่นยนต์มาส่งอาหารถึงหน้าบ้าน โดยคนที่สั่งอาหารจะได้รับข้อความแจ้งว่าตอนนี้หุ่นยนต์รออยู่ที่หน้าบ้านแล้ว ให้ออกมารับอาหารได้ ตอนนี้หุ่นยนต์ยังต้องมีคนเป็นพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือในเหตุสุดวิสัยต่างๆ อย่างการเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่อันตรายและพื้นที่กีดขวางทางจราจร อีกทั้งยังช่วยคอยตอบคำถามข้อสงสัยต่างๆ จากลูกค้า แต่ก็มีแผนที่จะทำให้ทุกอย่างเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมดให้ได้ในเร็ววัน
อย่างที่รู้กันอยู่ว่านี่คือเมืองที่มีเจ้าบ้านอย่าง Amazon ก็ต้องมีความล้ำหน้าก็ที่อื่นไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง บริการที่กำลังทำการทดสอบกันอยู่คือ AmazonFresh บริการที่จะทำให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาเดินช้อปปิ้งในร้านอีกต่อไป เพียงแค่ทำการสั่งซื้อสินค้าทางระบบออนไลน์ แล้วก็ทำการขับรถไปรับของที่ร้าน ระบบจะทำการตรวจสอบได้เองว่ารถหมายเลขทะเบียนนี้กำลังใกล้จะถึงร้านแล้ว ให้เตรียมสินค้าออกมารอได้ เมื่อรถมาถึงสินค้าก็จะถูกนำขึ้นรถให้เอง เจ้าของรถก็แค่ขับออกไป อะไรจะขนาดนั้น สำหรับคุณแม่บ้านชอบเดินอาจจะไม่ค่อยชอบใจบริการแบบนี้
กรมตำรวจของดูไบ มีแผนจะทดแทนแรงงานตำรวจด้วยหุ่นยนต์ ซึ่งดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วมันก็คือ Robocop ดีๆ นี่เองมีสองมือมีสองตาและใส่ชุดตำรวจอีกต่างหาก แต่ถ้าใครคาดหวังว่ามันจะออกมาควงปืนไล่ยิงผู้ร้ายแบบในหนังก็คงต้องผิดหวัง เพราะงานหลักๆ ของหุ่นยนต์ตำรวจนี้คือมีหน้าจอทัชสกรีนเอาไว้ให้คนแจ้งเหตุร้ายแล้วก็จ่ายเงินตามใบสั่งเท่านั้น แต่ก็มีการตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะเอามาทดแทนแรงงานตำรวจที่เป็นคนให้ได้ 25 % ในปี 2030 ถ้าตำรวจดูไบทำงานแค่รับแจ้งความกับออกใบสั่งก็เหมาะสมแล้วที่จะให้หุ่นยนต์ทำงานแทน
เมืองหลวงของนอร์เวย์กลายเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมทางการขนส่งไปในทันทีเมื่อ ทำการยกเลิกจุดจอดรถทั้งหมด นั่นก็คือให้เลิกใช้รถยนต์แล้วหันมาใช้จักรยานแทน ตั้งเป้าไว้ ในปี 2018 จะเพิ่มเขตที่เป็นถนนคนเดิน รถยนต์ให้ใช้ได้เท่าที่จำเป็น และจะเริ่มห้ามใช้รถยนต์อย่างจริงจังในปี 2019 ทั้งหมดนี้เพื่อแก้ปัญหาการจราจรและปัญหามลภาวะทางอากาศ เริ่มมีแนวทางการแก้ปัญหาแบบนี้เพิ่มขึ้นในเมืองอื่นอย่างเม็กซีโกและฝรั่งเศส
หลังจากที่ได้ลองสัมผัสกับเมืองในอนาคตจากทั่วทุกมุมโลกแล้ว พบว่าบางเรื่องไม่ใช่เรื่องไกลตัวจนเกินไปสำหรับบ้านเรา หลายเรื่องเราก็สามารถเริ่มต้นและทำได้เลย คงไม่ต้องรอให้อนาคตมาไล่ล่าเรา บางครั้งการคิดอะไรที่ไม่ซับซ้อนก็สามารถต่อยอด และพัฒนาเป็นธุรกิจใหม่ๆ ได้
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก