Google Pixel เปิดตัวครบองค์ ท้าชนทุกค่าย

การเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Google Pixel รอบนี้ หากมองดูภาพรวมแล้วเหมือนจะตั้งใจชนตรงๆ กับ Apple ในหลายอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาความสามารถ หรือแม้แต่ราคา งานนี้ Google จัดแรงจัดเต็ม อีกทั้งยังโชว์ความล้ำหน้าเรื่องของ AI เข้าไปในอุปกรณ์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างลำโพงและหูฟัง จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของพวกเราก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว

 

Google Pixel 2 และ Pixel 2 XL มือถือที่ไม่ธรรมดา

มือถือแอนดรอยด์ 2 ตัวใหม่จากค่ายต้นสังกัดอย่าง Google มาในขนาด 5 นิ้วและ 6 นิ้วตามลำดับในขื่อของ Pixel 2 และ Pixel 2 XL โดยทั้งสองรุ่นยังคงเอกลักษณ์ของ Pixel Phone เอาไว้ มาพร้อมหน้าจอ OLED ทั้ง 2 รุ่น และแน่นอนว่าพร้อมใจกันป้องกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP67 และมาพร้อมด้วยระบบการชาร์จไฟความเร็วสูง

มาพร้อมระบบเลนส์อัจฉริยะ ที่พร้อมสำหรับส่องเพื่อการค้นหาอย่างแท้จริง อย่างเช่นเมื่อคุณเอามือถือไปจับภาพโปสเตอร์ของภาพยนตร์สักเรื่อง ระบบจะทำการค้นหาข้อมูลของภาพยนตร์เรื่องนั้นทันที ในทางธุรกิจบริษัทต่างๆ อาจจะต้องเร่งสร้างเนื้อหาของบริษัทและสินค้าเอาไว้ให้ PiXel ค้นหาก็เตรียมตัวกันได้เลย

ส่วนประสิทธิภาพของกล้องบน Pixel ทั้ง 2 รุ่น ก็มีการอ้างอิงว่าได้คะแนนจาก industry-standard DxO ที่ 98 คะแนน ซึ่งมากกว่า Galaxy Note8 และ iPhone 8 ที่ได้คะแนนอยู่ที่ 94 Google Pixel 2 และ 2 XL มาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอคู่หน้า และมีให้เลือกถึง 3 สี คือฟ้า, ดำ และขาว แน่นอนว่าข้างในควบคุมการทำงานด้วย Android Oreo

Pixel 2 ราคาเริ่มต้นที่ 649 เหรียญ Pixel2 XL ราคาเริ่มต้นที่ 849 เหรียญ เปิดให้สั่งจองแล้วในอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, เยอรมัน, อินเดีย และ แคนาดา

 

Google Home Mini

Google เปิดตัวน้องใหม่หัวใจเดิม กับความพยายามจะทำให้อุปกรณ์ในบ้านทั้งหลังพูดคุยกับเจ้าของบ้านรู้เรื่อง ผ่านทางลำโพงที่เอาไว้ทั้งพูดและทั้งฟัง ทำงานด้วยระบบ AI ขนาดย่อม ควบคุมการทำงานด้วย Google’s Home voice assistant ซึ่งจะทำให้เราสามารถสั่งงานอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับ Google Home ได้ ตัวใหม่ขนาดเล็กนี้มีให้เลือกใช้งาน 3 สีคือ เทา, ดำ และ แดง ราคาเปิดตัวที่ 49 เหรียญ

Google Home Max

เปิดตัวน้องเล็กเหมือนจะให้ไปติดไว้ในห้องต่างๆ แต่ถ้าเป็นพื้นที่ของคนส่วนใหญ่ในบ้านต้องตัวนี้เลย Google Home Max มาพร้อมด้วยคุณสมบัติที่เจ้าของสินค้าบอกเอาไว้ว่ามันทำงานได้ดีกว่า Google Home ตัวเดิมมากถึง 20 เท่า ขับเคลื่อนด้วย Woofers ภายในหลายตัว รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เล่นเพลงอื่นๆ ได้สบาย มาพร้อมด้วยระบบ AI และ Machine Learning ที่พร้อมจะทำการเร่งพลังเสียงตามสภาพแวดล้อมและช่วงเวลาใช้งาน อย่างเช่นจะใช้เสียงที่เบาสบายในตอนเช้า แล้วค่อยๆ เพิ่มความดังให้ในตอนบ่าย อีกทั้งยังทำการปรับโหมดของเสียงตามทำเลที่ตั้งหากถูกเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้อีกด้วย เปิดตัวด้วยราคา 399 เหรียญ วางจำหน่ายเดือนธันวาคม 2017

Google Clips

การเปิดตัวรอบนี้ของ Google อาจจะเป็นการแสดงศักยภาพของ AI ในอุปกรณ์ขนาดเล็กก็เป็นได้  นี้คือกล้องบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวขนาดเล็ก ที่ออกแบบมาให้ดูแล้วน่ารัก เห็นแบบนี้ข้างในมีระบบจดจำใบหน้าของคนและสัตว์เลี้ยง ทำให้กล้องสามารถทำงานได้แม้ไม่ได้อยู่ในมือเจ้าของ หากวางเอาไว้ในบ้านก็เหมือนมีดวงตาของ Google คอยสอดส่องดูแลอยู่ บันทึกภาพได้ทั้งแบบวิดีโอและภาพนิ่ง ด้วยความละเอียด 12 ล้านพิกเซล

ทำงานร่วมกับโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ของ Google ได้เป็นอย่างดี ส่วนมือถือรุ่นใหม่อย่าง iPhone 8, 8 Plus และ Galaxy S7 ก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 249 เหรียญ

 

Google Pixel Buds

หูฟังแปลภาษาที่คนทั้งโลกรอคอย ดูเหมือนว่าเคล็ดลับสำคัญของ Google จะอยู่ที่การนำเอา Google Assistant ฝังเข้าไปในอุปกรณ์ต่างๆ และทำการติดต่อกับเจ้าของผ่านทางไมค์และลำโพงเป็นหลัก ทำให้หูฟังของ Google Pixel Buds กลายเป็นหูฟังที่สามารถทำการฟังแล้วแปลภาษาให้ผู้สวมใส่ได้มากถึง 40 ภาษา จากลิสต์ภาษาที่เปิดเผยออกมาพบว่ายังไม่มีภาษาไทย อันนี้ก็ต้องรอให้ AI ตัวน้อยๆ ในหูฟังทำการอัปเดตกันไปตามระเบียบ

แต่เชื่อว่าความสามารถของ Google Translate ที่แปลได้มากถึง 103 ภาษา จะถูกนำมาใช้ในหูฟังรุ่นนี้แน่นอน (อาจจะต้องเลือกภาษาที่จะใช้ได้มากถึง 40 ภาษาตามที่ระบุไว้) ซึ่งการใช้หูฟังรุ่นนี้จะทำให้กำแพงทางด้านภาษาพังทลายลง เพราะเป็นแปลภาษาแบบไปและกลับ พูดคนละภาษาก็ฟังกันรู้เรื่อง ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 159 เหรียญสินค้าพร้อมให้เห็นได้ใช้ในเดือนพฤศจิกายน 2517

 

Google Pixelbook

ปิดท้ายการเปิดตัวของตระกูล Pixel ด้วย Google Pixelbook จากเดิมที่เคยเปิดตัว Chromebook ที่ทำงานด้วย Chrome OS ในราคาย่อมเยาไปแล้ว กลับมาคราวนี้จัดสเปคกันแบบสุดแรงและสุดหรูระดับพรีเมี่ยมด้วย new Pixelbook หนาเพียง 10.3 มิลลิเมตร น้ำหนักเบา 1.1 กิโลกรัม กระจกมาแบบ Gorilla Glass สเปคข้างในก็รุนแรงตามราคา เพิ่มเติมความสามารถในการเขียนด้วย Pixelbook Pen stylus (อันนี้ต้องซื้อต่างหาก)

ใครอยากสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับ Pixelbook ก็เตรียมเงินในกระเป๋าเอาไว้ให้ดี ตัวเครื่องเปิดตัวที่ราคา 1,250 เหรียญ ปากการาคา 124 เหรียญ ก็บอกแล้วว่าคราวนี้มาในระดับพรีเมี่ยม

 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก www.wired.co.uk