สาวกเทคโนโลยีส่วนใหญ่ มักเชื่อว่าการพัฒนาเทคโนโลยีเจ๋งๆ มีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดลงที่ Silicon Valley เท่านั้น แต่ความเป็นจริงมี สตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น มากมายที่เกิดขึ้นและขยายตัวอย่างงอกงามนอกเขต Silicon Valley (ทางใต้ของอ่าวซานฟรานซิสโก) ซึ่งมีทั้งบริษัทที่มีชื่อเสียงมายาวนานและบริษัทเกิดใหม่ รวมถึงบริษัทที่ซื้อขายกันอยู่ในตลาดหุ้น
ทำไม Silicon Valley มีแต่ สตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น
นานมากแล้วที่คนส่วนใหญ่ให้นิยามถึง Silicon Valley ว่าเป็นศูนย์รวมของบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับแถวหน้า ซึ่งไม่แปลก เพราะ Silicon Valley เป็นฐานที่ตั้งของบริษัทชั้นนำมากมาย เช่น Apple, Facebook, Intel, Alphabet, Netflix ฯลฯ
แต่เราต้องทำความเข้าใจกันว่า Silicon Valley ไม่ใช่พื้นที่เดียวที่เป็นฐานสำคัญของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในสหรัฐฯ เพราะอย่าง Microsoft, Amazon และยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีอีกหลายบริษัทก็ตั้งอยู่ในรัฐวอชิงตัน นอกจากนั้น บริษัทที่ดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ก็เริ่มขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในรัฐเท๊กซัสและรัฐโคโลราโด
รวมถึง สตาร์ทอัพระดับยูนิคร์อน 5 บริษัทนี้
SpaceX ของ Elon Musk เจ้าของ Tesla บริษัท SpaceX ทำธุรกิจผลิตจรวดและการสำรวจอวกาศ ก่อตั้งขึ้นในปี 2002 ปัจจุบันบริษัทฯมีมูลค่า 21,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยบริษัทฯมีสัญญาทำงานให้กับ NASA และเป็นบริษัทเอกชนเดียวที่ประสบความสำเร็จในการนำจรวดเดินทางออกไปนอกวงโคจรของโลกและกลับคืนสู่โลก แล้วนำกลับไปบินสู่อวกาศได้อีกครั้ง ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มหาศาล ปัจจุบันมีการจ้างงานมากกว่า 5,000 อัตรา สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมือง ฮอว์ทอร์น แคลิฟอร์เนีย มีฐานปล่อยจรวดที่ Cape Canaveral Air Force Station และ Vandenberg Air Force Base พร้อมสถานที่พัฒนาจรวดในรัฐเท๊กซัส
CEO Elon Musk
WeWork ก่อตั้งปี 2010 ในนิวยอร์ค ทำธุรกิจจัดหาสถานที่ทำงานทั้งที่เป็นส่วนบุคคล, การแชร์สถานที่ทำงานร่วมกัน พร้อมบริการอื่นๆที่เกี่ยวกับอสังหาฯให้ผู้ประกอบการหรือเหล่าสตาร์ทอัพ และล่าสุดยังได้ร่วมกับ Airbnb สู่การเป็นผู้นำในการผสมผสานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน
ทำให้ WeWork กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจเกิดใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลในสหรัฐฯและทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีมูลค่าในตลาดมากถึง 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
CEO Adam Neumann and CCO Miguel Mckelvey
Infor ธุรกิจผลิตซอฟแวร์ในรูปของ cloud และทำหน้าที่เป็นฐานให้แก่บริษัทต่างๆ โดยครอบคลุมทุกรูปแบบธุรกิจ มีพนักงานกว่า 16,000 คน และมีลูกค้า 90,000 ราย ซึ่งรวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่าง Kellogg’s, Nissan และ Ricoh มีสำนักงานในนิวยอร์ค และสำนักงานย่อยอยู่ทั่วโลก ปัจจุบันบริษัทฯมีมูลค่าทางตลาดสูงถึง 10,000 ล้านเหรียญฯ
Outcome Health ก่อตั้งปี 2006 ที่ชิคาโก โดยประกอบธุรกิจด้านการช่วยเหลือทั้งคนไข้และแพทย์ ด้วยการจัดหา touch screen monitor ให้แก่โรงพยาบาลและสำนักงานให้บริการด้านสุขภาพทั่วสหรัฐฯ ปัจจุบันมีมูลค่าราว 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
Fanatics มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ใน 3 แห่ง ได้แก่สำนักงานเดิมที่รัฐฟลอริด้า, สำนักงานที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษและสำนักงานในซานฟรานซิสโก บริษัทฯทำธุรกิจขายเสื้อผ้า, ของตกแต่งและของที่ระลึกสำหรับทีมกีฬาต่างๆผ่านทางออนไลน์, ในร้านค้าและในสนามกีฬา ที่รวมกันมากกว่า 300 ช่องทาง
ทั้งยังเป็นตัวกลางในการขายสินค้าออนไลน์ให้กับองค์กรอีกมากมาย เช่น NFL, MLB, NBA, NHL, NASCAR, MLS, PAG และทีมของมหาวิทยาลัยอีก 200 ทีม รวมถึงทีมฟุตบอลระดับโลก อย่าง Manchester United, Real Madrid และ Manchester City
source | www.zacks.com
อ่านเรื่อง
สตาร์ทอัพจีน “แชร์” จักรยานไกลถึงยุโรป
SpaceX พาหนีจากกรุงเทพฯ ไปดูไบ ใน 27 นาที