“มิชลินสตาร์” มีดียังไงทำไม “เจ๊ไฝ” สตรีทฟู้ดถึงฮือฮาในสื่อโซเชียล


เจ๊ไฝ” สตรีทฟู้ดข้างทาง รางวัล 1 ดาวมิชลินสตาร์ ที่กำลังฮือฮาในสื่อโซเชียล

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับมิชลิน มอบรางวัลและเปิดตัวคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พัก “มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ”(MICHELIN Guide Bangkok) ฉบับปฐมฤกษ์ โดยมีร้านอาหาร 17 ร้านได้รับรางวัล มิชลินสตาร์ จาก 98 ร้าน ประกอบด้วยร้านอาหาร 2 ดาวมิชลิน จำนวน 3 ร้าน และร้านอาหาร 1 ดาวมิชลิน จำนวน 14 ร้าน มิชลินสตาร์ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือ ททท. (ใส่สูทดำตรงกลาง) กล่าวว่า จากการที่ไทยตั้งเป้าเป็น “เมืองหลวงอาหารแห่งเอเชีย” มองประโยชน์ในการร่วมมือกับมิชลินไกด์ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีอิทธิพลระดับโลกว่าจะช่วยส่งเสริมการรับประทานอาหารในไทยให้เป็นที่รู้จักโดยเฉพาะร้านอาหารริมทางหรือสตรีทฟู้ด โดยครั้งนี้มีร้านที่ได้ 1 ดาวมิชลิน ร่วมด้วย 1 ร้าน คือ “ร้านเจ๊ไฝ” สร้างสถิติเป็นร้านริมทางแรกของโลกที่ได้ดาวจากมิชลิน หลังจากที่ก่อนหน้านี้สิงคโปร์มีร้านราคาประหยัดที่ได้มาก่อน แต่อยู่ในศูนย์อาหาร ไม่ใช่สตรีทฟู้ดชัดเจนเหมือนไทย อย่างไรก็ตามจากการที่ร้านอาหารไทย ได้รับคัดเลือกลงในมิชลินไกด์รวมทั้งหมด 98 ร้าน โดยแบ่งเป็นร้านอาหาร “2 ดาวมิชลิน”  (ร้านอาหารที่อร่อยเป็นพิเศษคุ้มค่ากับการขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม) จำนวน 3 ร้าน, ร้าน “1 ดาวมิชลิน” (ร้านอาหารที่อร่อยมาก เมื่อเทียบกับร้านอาหารประเภทเดียวกัน) 14 ร้าน และร้านอาหารรางวัล “บิบ กูร์มองต์” 35 ร้าน ขณะเดียวกันมีการแนะนำร้านอาหารริมทางจำนวน 28 ร้านที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ลงในฉบับปฐมฤกษ์นี้ ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่วางกลยุทธ์นำเสนอความหลากหลายและเสน่ห์ของการรับประทานอาหารแบบท้องถิ่นเป็นจุดแข็ง ซึ่งปัจจุบันมีหลายประเทศต้องการทำ แต่ยังทำได้ไม่เทียบเท่าไทย เช่น สิงคโปร์ เป็นต้น

นายไมเคิล เอลลิส ผู้อำนวยการ นานาชาติ มิชลินไกด์ กล่าวว่า ใช้เวลาสำรวจร้านอาหารในไทยนับหลายร้อยร้านเป็นเวลาเกือบ 1 ปี กว่าจะได้รายชื่อ 98 ร้าน ที่ได้รับการ บรรจุในมิชลินไกด์ไทยแลนด์ฉบับแรกและ มีผู้ตรวจสอบจากหลายประเทศในสหรัฐ,ยุโรป และเอเชีย ซึ่งแต่ละคนผลัดเปลี่ยนกันไปสำรวจแบบปกปิดตัวตนในร้านอาหารทั่วกรุงเทพฯ โดยแต่ละร้านต้องผ่านการสำรวจมากกว่า 1 ครั้งจากหลายคน เพื่อให้แน่ใจในคุณภาพและมาตรฐาน ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ในการประเมินของมิชลินมี 5 เรื่อง ได้แก่ 1. คุณภาพของวัตถุดิบ 2. ความชำนาญและเทคนิคในการประกอบอาหารลักษณะเฉพาะตัวของเชฟที่สื่อผ่านอาหารที่ปรุงขึ้น 3. ความคุ้มค่าสมราคา 4. ความเสมอต้น เสมอปลายของคุณภาพ 5. รสชาติอาหาร โดยในระดับ 2 ดาวมิชลิน ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดที่ไทยได้รับในครั้งนี้มีทั้งหมด 3 ร้าน  ซึ่งทั่วโลกมีจำกัด เพียงราวๆ 400 ร้าน เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงการเลือกเฟ้นร้านอาหารที่ตรงกับการประเมินจริงๆ และต้องผ่านการตรวจเช็คคุณภาพเพื่อรักษาดาวไว้แบบปีต่อปu การที่ร้านอาหารทั้งหมดในไกด์บุ๊คนี้มีกว่า 50% ที่ร้านอาหารไทยได้รับเลือกคู่กับร้านอาหารจากนานาชาติ สามารถพิสูจน์ความหลากหลายด้านอาหารได้อย่างดี โดยเฉพาะสตรีทฟู้ดที่เป็นแหล่งรับประทานที่อยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนมานานแต่ด้วยข้อจำกัดของ มิชลินไกด์ที่กำหนดให้ร้านต้องมีถิ่นที่ตั้งจับต้องได้ชัดเจนจึงไม่สามารถคัดเลือกร้านอาหารประเภทรถเข็นหรือที่ต้องเคลื่อน ที่ย้ายหลักแหล่งไม่แน่นอนได้ และการที่ไทยยังไม่มี 3 ดาวมิชลิน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะครั้งนี้เป็นการจัดโครงการปีแรกและเชื่อว่าจะเป็นโอกาสให้เชฟได้พัฒนาฝีมือ ทั้งร้านอาหารที่ได้รับดาวไปแล้วก็ต้องกระตือรือร้นมากขึ้น รวมถึงร้านใหม่ๆ ที่อยากก้าวเข้ามามีส่วนร่วม เพราะจากประวัติศาสตร์ การนำมิชลินเข้าไปยังประเทศอื่นๆ ร้านอาหารหรือเชฟจะต้องใช้เวลาเรียนรู้และพัฒนา จึงจะยกระดับ สู่ 3 ดาวได้ในปีถัดๆ ไป และเชื่อว่าร้านในกรุงเทพฯมีศักยภาพที่จะทำได้

นางสุภิญญา  จันสุตะ เจ้าของร้านเจ๊ไฝ กล่าวว่า ปกติร้านมีลูกค้าชาวต่างชาติและ ไทยราว 50% เท่ากัน โดยมีการรองรับได้จำกัดเพียง 10 โต๊ะในร้าน เนื่องจากยังทำงานเองในทุกขั้นตอน โดยหลังจากได้ดาวมิชลินแล้วยืนยันว่าจะไม่ปรับราคาขึ้น เนื่องจากราคาที่ตั้งไว้ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว และไม่เคยปรับเปลี่ยนเลยในรอบหลายปีที่ผ่านมา การได้รางวัลในครั้งนี้ดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการยืนยันคุณภาพ แม้ร้านจะไม่เคย ได้รับคำตำหนิเรื่องอาหารหรือรสชาติ ความอร่อย แต่มักจะมีคำวิจารณ์ราคาเฉลี่ย สูงตั้งแต่ 200 บาทไปจนถึง 10,000 บาท ซึ่งเหตุผลเป็นเพราะการกล้าเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ

เกี่ยวกับ มิชลินสตาร์

1 ดาว เยี่ยมสุดในร้านประเภทเดียวกัน 2 ดาว อร่อยจนคุ้มค่าแก่การขับออกนอกเส้นทางที่จะไปเพื่อแวะชิม 3 ดาว อร่อยเลิศ เลอค่า แม้จะไกลแค่ไหนก็ควรดั้นด้นไปกิน

ประเทศที่ได้รับ มิชลินสตาร์ 5 อันดับแรก

อันดับที่ 1 ฝรั่งเศส มีจำนวน 594 ร้าน, อันดับที่ 2 ญี่ปุ่น มีจำนวน 317 ร้าน  อันดับที่ 3  อิตาลี มีจำนวน 295 ร้าน อันดับที่ 4 เยอรมนี มีจำนวน 290 ร้าน  และอันดับที่ 5 อังกฤษ  มีจำนวน 125 ร้าน บรรยากาศร้านเจ้ไฝ credit images | Thailand One Click