24,700 หมู่บ้าน พร้อมใช้เน็ตประชารัฐแล้ว


รัฐบาล (โดยการนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) มีความประสงค์ที่จะให้ประเทศไทยก้าวสู่ “ไทยแลนด์ 4.0” ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจรากฐานของประเทศให้เข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก หนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องการให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุดก็คือ โครงสร้างของอินเทอร์เน็นความเร็วสูง ที่ถือว่าเป็นปัจจัยหลักของการพัฒนา เพื่อให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการพัฒนาที่เท่าเทียมกับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกล ด้วยเหตุนี้ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) โดย ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จึงได้มีมติให้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) : TOT เป็นผู้ดำเนินการในการวางโครงสร้างพื้นที่และให้บริการอินเทอร์เน็ต ในโครงการของเน็ตประชารัฐ ไปยัง 24,700 หมู่บ้าน

และเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2559 เป็นครั้งแรกของการเปิดโครงการยกระดับโครงการพื้นฐานโทรคมนาคม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการ และเลือกตำบลจุน จังหวัดพะเยาเป็นจุดแรกของการติดตั้งเน็ตประชารัฐ ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้ติดตั้งสื่อสัญญาณสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber-To-The-x: FTTx) ไปยังหมู่บ้านต่างๆ ที่มีความห่างไกลความเจริญ และในบางจุดอินเทอร์เน็ต หรือโครงสร้างของโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็ยังไปไม่ถึง ซึ่งทุกย่างก้าวของการพัฒนาและเดินสายไฟเบอร์ออฟติกไปยังจุดต่างๆ ก็เพื่อให้ผู้ใช้บริการ สามารถใช้เน็ตประชารัฐ ในแง่มุมต่างๆ และเป็นการสร้างเสริมความรู้ให้กับชุมชนและประชาชนภายในหมู่บ้านที่ติดตั้ง โดยเลือกสถานที่ติดตั้งส่วนใหญ่จะเป็นศาลาประชาคม สถานที่ประชุมของแต่ละหมู่บ้านเป็นหลัก

เพื่อให้ชุมชนสามารถมาใช้งานได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงแค่ลงทะเบียนการใช้งานเบื้องต้นเท่านั้น จากจุดเริ่มต้นเดือนมกราคม 2561 ที่เริ่มติดตั้งไปยังหมู่บ้านต่างๆ เพียง 99 หมู่บ้าน จนปัจจุบันทางบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ภายใต้กระทรวง ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้ติดตั้งเน็ตประชารัฐไปกว่า 24,700 หมู่บ้าน ครบแล้ว ซึ่งเชื่อว่า ประชาชนภายในชุมชนจะได้รับประโยชน์ต่อการใช้งานเน็ตประชารัฐ พร้อมกันนี้ยังได้เพิ่มเติมความรู้การใช้อินเทอร์เน็ตได้ถูกวิธี โดยผ่านเว็บไซต์ Netpracharat.com ซึ่งครอบคลุมความรู้ทั้งหมด 5 ด้าน ประกอบด้วย

  1. ความปลอดภัย 4.0โอกาสในการเข้าถึงข้อมูลด้านความปลอดภัยผ่านออนไลน์
  2. เกษตรกร 4.0 โอกาสในการเข้าถึงข้อมูลและเทคโนโลยีการเกษตรผ่านออนไลน์
  3. สุขภาพ 4.0 โอกาสในการเข้าถึงข้อมูลการแพทย์และปรึกษาแพทย์ผ่านออนไลน์
  4. ภูมิปัญญา 4.0 โอกาสในการเข้าถึงการเรียนรู้ไม่รู้จบผ่านออนไลน์
  5. ชุมชนเน็ตประชารัฐ โอกาสในการเข้าถึงการเรียนรู้ไม่รู้จบผ่านออนไลน์

ทั้งนี้สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 1111 กด 8