อะไรจะเกิดขึ้น!! หลังปรับขึ้นค่าแรงทั่วประเทศ สูงสุด 330 บาท/วัน


การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำปี 61

หลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมเพื่อหารือประเด็น การกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2561 เสร็จสิ้นไปเมื่อคืนวานนี้ ได้ข้อสรุปดังนี้

  • ปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 330 บาท/วัน ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต ชลบุรี ระยอง
  • ปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 325 บาท/วัน ใน 7 จังหวัด ได้แก่  กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และฉะเชิงเทรา
  • ปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 320 บาท/วัน ใน 14 จังหวัด ได้แก่  อุบลราชธานี สุพรรณบุรี สระบุรี อยุธยา หนองคาย ลพบุรี ตราด ขอนแก่น สงขลา สุราษฎร์ธานี กระบี่ เชียงใหม่ นครราชสีมา และพังงา
  • ปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 318 บาท/วัน ใน 7 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี สมุทรสงคราม สกลนคร มุกดาหาร นครนายก กาฬสินธุ์ และปราจีนบุรี
  • ปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 315 บาท/วัน ใน 21 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด ประจวบคีรีขันธ์ นครสวรรค์ สระแก้ว พัทลุง อุตรดิตถ์ อุดรธานี นครพนม บุรีรัมย์ สุรินทร์ เพชรบุรี พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ชัยนาท เลย ยโสธร พะเยา บึงกาฬ น่าน กาญจนบุรี และอ่างทอง
  • ปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 310 บาท/วัน ใน 22 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี นครศรีธรรมราช ตรัง แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน เชียงราย สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี ศรีสะเกษ ตาก ชัยภูมิ อำนาจเจริญ แพร่ ราชบุรี ระนอง
  • ปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 308 บาท/วัน ใน 3 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ยะลา และปัตตานี

มีผลปรับใช้ 1 เมษายน 2561 นี้!!

หลังจากได้ข้อสรุปการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแล้ว หลายๆคงจะมีคำถามกันต่อว่าในเมื่อมีการปรับขึ้นค่าแรงอย่างนี้แล้ว ค่าครองชีพจะมีการปรับขึ้นอีกหรือไม่ เพราะปัจจุบันผู้บริโภคต่างได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่งผลให้แรงงานมีการขอปรับขึ้นค่าแรงในหลายๆที่ อย่างไรก็ตามพิษเศรษฐกิจนี้จะเล่นงานใครบ้าง เราคงต้องติดตามกันต่อไป

ความคิดเห็นบางส่วนจากชาวเพจ กรณีการปรับขึ้นค่าแรงปี 61