“หมูปลาร้า สายซิ่ง” ธุรกิจแซ่บๆนัวๆ รายได้ต่อเดือน 2-3 แสนบาท


“หมูปลาร้า” สร้างรายได้

ถ้าพูดถึงเมนู “หมูปลาร้า” แล้ว แค่พูดชื่อขึ้นมาเชื่อได้ว่าหลายๆคนคงนั่งกลืนน้ำลายกันเป็นแถวๆ โดยวันนี้เราจะมาล้วงความสำเร็จ หมูปลาร้า สายซิ่ง ที่เจ้าของร้านอย่างคุณภูศิษฎ์ สุดสงวน หรือเรียกสั้นๆว่าคุณวุฒิ ประธานกลุ่มนักบิด ไบค์เกอร์ ที่นำเอาเมนูหมูปลาร้าแยกคอวัวที่เป็นที่โด่งดังมาต่อยอดให้มีรสชาติที่แซ่บอย่าบอกใคร เรื่องราวการทำธุรกิจของเขาจะน่าสนใจแค่ไหน ไปดูกันเลย

จุดเริ่มต้น..ธุรกิจ

จุดเริ่มต้นของธุรกิจหมูปลาร้าสายซิ่งนั้นเริ่มมาจากในช่วงหนึ่งทางคุณวุฒิประสบปัญหาทางธุรกิจ โดยธุรกิจที่ทำในตอนนั้นคือการนำผักไฮโดรโปนิกส์จากเขาค้อลงมาขายในกรุงเทพฯ ทำไปสักระยะหนึ่งก็โดนโกงจนสุดท้ายถึงขั้นฟ้องร้อง ถึงแม้เขาจะล้มเหลวกับธุรกิจนี้ แต่ถึงอย่างไรทางคุณวุฒิก็ไม่ลดละความพยายาม ยังคงมองหาธุรกิจใหม่ๆอยู่เสมอ

ด้วยความที่คุณวุฒิเองเป็นคนชอบกิน จึงได้ตระเวนกินอาหารตามที่ต่างๆไปเรื่อย จนวันนึงได้ลองไปชิมหมูปลาร้าแยกคอกวัว เมื่อชิมไปแล้วรู้สึกว่ารสชาติของอาหารยังไม่สุดจึงได้ลองคุยกับแฟนว่าจะลองทำธุรกิจนี้กันดูไหม และนั่นเองถือเป็นจุดกำเนิด “หมูปลาร้า สายซิ่ง”  ที่หลายๆคนรู้จัก

จุดที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้นั้นมาจากสื่อโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊ค หรือ อินตราแกรม ซึ่งเป็นช่องทางที่ทำให้คนรู้จักธุรกิจของเราเร็วขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตได้ในเวลาอันรวดเร็ว มียอดขาย  2-3 แสนบาท/เดือน เลยทีเดียว

การตอบรับจากลูกค้า

ร้านหมูปลาร้า สายซิ่ง นี้เปิดมาได้เพียงเดือนกว่าๆ ผลตอบรับที่ได้นั้นดีมาก ลูกค้าชื่นชอบ ติดใจ อาจจะมาจากร้านของเรายังไม่เคยมีใครมาเปิด

ส่วนการเปิดแฟรนไชส์นั้นเปิดมาได้ไม่ถึงเดือน จุดเริ่มต้นคือการเป็นที่รู้จักจนทำให้มีผู้ที่สนใจอยากซื้อแฟรนไชส์เพื่อสร้างอาชีพเป็นจำนวนมาก จึงได้ปรึกษากับเพื่อนจนเปิดแฟรนไชส์ขึ้นมา โดยราคาแฟรนไชส์มี 3 ราคาด้วยกัน คือ 3,999 / 9,999 /  18,999 บาท

ปัญหา-อุปสรรคที่เจอ

 

ในส่วนของการทำร้านหมูปลาร้าสายซิ่งนี้อุปสรรคที่เจอคงจะเป็นเรื่องสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ บางวันฝนตกก็ขายไม่ได้ แต่ก็ไม่ย่อท้อยังคงสู้ทำต่อไป

การวางแผนธุรกิจในอนาคต

ทางคุณวุฒิได้วางแผนที่จะขยายแฟรนไชส์ให้มากขึ้น รวมถึงการทำร้านให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับลูกค้าที่มาใช้บริการ

เคล็ดลับความสำเร็จ

คิดเสมอว่า “ลูกค้าทุกคนเป็นเหมือนญาติ ทางเราจะดูแลพูดคุยกับลูกค้าแบบเป็นกันเอง” ทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายเหมือนได้นั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน สำหรับธุรกิจอาหาร นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว การบริการที่ดีก็เป็นหัวใจหลักที่จะสามารถมัดใจลูกค้าได้เป็นอย่างดี

พิกัดความอร่อย : ตลาดมะลิ เมืองทองธานี