ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
คำตอบคือ “หนังสือ”
ตามการศึกษาของ Tom Corley ผู้เขียนหนังสือ “Rich Habits: The Daily Success Habits Of Wealthy Individual” พบว่าคนรวย และคนจนมีคุณลักษณะแตกต่างกัน แต่ที่เห็นได้ชัดเจน คือคนที่ประสบความสำเร็จน้อยจะชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับความบันเทิง แต่คนรวยจะอ่านหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเอง
Corley ให้คำนิยาม “คนรวย” ว่าต้องมีรายได้ 160,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.6 ล้านบาท) ต่อปี หรือมีสภาพคล่องทางการเงิน 3.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ “คนจน” มีรายได้ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (1.2 ล้านบาท) หรือน้อยกว่าต่อปี และมีสภาพคล่องทางการเงิน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (1.7 แสนบาท) หรือน้อยกว่า
นี่คือประเด็นที่น่าสนใจของงานวิจัยชิ้นนี้
– ร้อยละ 11 ของคนรวย อ่านหนังสือเพื่อความบันเทิง เปรียบเทียบกับคนจนที่อ่านหนังสือเพื่อความบันเทิงร้อยละ 79
– ร้อยละ 85 ของคนรวยอ่านหนังสือ 2 เล่มขึ้นไปต่อเดือน ทั้งการศึกษา, อาชีพ หรือการพัฒนาตัวเอง เปรียบเทียบกับคนจนที่มีแค่ร้อยละ 15 เท่านั้น
– ร้อยละ 94 ของคนรวยอ่านข่าวผ่านหนังสือพิมพ์ และบล็อก เปรียบเทียบกับคนจนที่มีเพียงร้อยละ 11 เท่านั้น
งานวิจัยดังกล่าวได้ข้อสรุปว่านิสัยในแต่ละวันจะเป็นตัวกำหนดความสำเร็จทางการเงินในชีวิต โดยเฉพาะหนึ่งในกุญแจสำคัญเรื่องของการอ่านที่คนรวยมักเป็นนักอ่านที่หิวกระหายที่จะปรับปรุงตนเอง และมักเลือกหนังสือพัฒนาตนเอง, ชีวประวัติเกี่ยวกับคนที่ประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ ปัจจัยความสำเร็จอีกประการหนึ่ง นั่นคือการให้คำปรึกษา โดยคนรวยที่ถูกสัมภาษณ์มีเพียงร้อยละ 24 ที่มีพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำ แต่คนรวยบางคนบอกว่าที่เขาไม่มีที่ปรึกษา เพราะว่าพวกเขาศึกษาผ่านการอ่านหนังสือ และประสบการณ์ของตัวเองที่เคยมีมา
ที่มา: businessinsider