ไปรษณีย์ไทย VS ขนส่งเอกชน Kerry เจ้าไหนดีกว่ากัน??


ถ้าพูดถึง “ระบบขนส่งสินค้า” ในประเทศไทยแล้ว หลายๆคนคงจะนึกถึงการขนส่งไปรษณีย์ไทยและการขนส่งเอกชน โดยแต่ละเจ้าก็มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ที่มาใช้บริการ

ไปรษณีย์ไทย

การขนส่งไปรษณีย์ไทยถือได้ว่ามีมานาน ซึ่งในปัจจุบันไปรษณีย์ไทยมีการให้บริการที่หลากหลายนอกจากการขนส่งสินค้า อาทิเช่น รับชำระค่าบริการต่างๆ บริการการเงิน การจำหน่ายแสตมป์ รวมไปถึงจัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการห่อหุ้มสินค้า เป็นต้น

ข้อดี – ไปรษณีย์ไทย 

  • มีสาขาทั่วประเทศ
  • ราคาค่าส่งแบบธรรมดามีราคาถูก
  • การส่งแบบ EMS สามารถตรวจสอบสถานะพัสดุได้ทางอินเตอร์เน็ต
  • มีการให้บริการแบบ Drive Thru (มีเฉพาะบางสาขา)
  • แม้ที่อยู่ผิด แต่บุรุษไปรษณีย์สามารถนำจ่ายได้ถูกบ้าน

ข้อเสีย  – ไปรษณีย์ไทย 

  • ราคาค่าส่งแบบ EMS ราคาเทียบเท่ากับเอกชน
  • สินค้าบางชิ้นเกิดความเสียหายระหว่างขนส่ง
  • การขนส่งที่ล่าช้า

บริษัทขนส่งเอกชน KERRY

สำหรับการขนส่งทาง KERRY เริ่มเป็นบริการขนส่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจาก KERRY ได้เล็งเห็นถึงปัญหาการขนส่งไปรษณีย์ไทยที่มีความล่าช้า ทำให้บริษัทขนส่ง KERRY วางระบบการขนส่งสินค้าที่ทำให้ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อ KERRY เปิดตัวได้ไม่นานก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากเหล่าผู้มาใช้บริการมากมาย

ข้อดี – ขนส่ง KERRY

  • ระบบขนส่งมีความรวดเร็ว
  • ราคาไม่แพงจนเกินไป
  • มีการรับประกันสินค้าหากสินค้าชำรุด หาย
  • มีเจ้าหน้าที่โทรหาเมื่อสินค้าถูกนำจ่ายทุกครั้ง
  • สามารถนัดหมายวันที่รับสินค้าที่สะดวกได้

ข้อเสีย – ขนส่ง KERRY

  • สาขายังมีไม่มากเท่าที่ควร
  • เจ้าหน้าที่นำจ่ายยังไม่เชี่ยวชาญเส้นทางมากนัก

อย่างไรก็ตาม ถ้าพูดในแง่ของธุรกิจแล้ว ระบบการขนส่งสินค้าในประเทศไทยถือได้ว่ามีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเมื่อมีคู่แข่งเพิ่มขึ้น บริษัทขนส่งแต่ละบริษัทก็ต่างต้องแข่งขันและพัฒนาการให้บริการให้ดียิ่งขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากที่สุด